ABOUT THE SPEAKER
Margaret Heffernan - Management thinker
The former CEO of five businesses, Margaret Heffernan explores the all-too-human thought patterns -- like conflict avoidance and selective blindness -- that lead organizations and managers astray.

Why you should listen

How do organizations think? In her book Willful Blindness, Margaret Heffernan examines why businesses and the people who run them often ignore the obvious -- with consequences as dire as the global financial crisis and Fukushima Daiichi nuclear disaster.

Heffernan began her career in television production, building a track record at the BBC before going on to run the film and television producer trade association IPPA. In the US, Heffernan became a serial entrepreneur and CEO in the wild early days of web business. She now blogs for the Huffington Post and BNET.com. Her latest book, Beyond Measure, a TED Books original, explores the small steps companies can make that lead to big changes in their culture.

More profile about the speaker
Margaret Heffernan | Speaker | TED.com
TEDGlobal 2012

Margaret Heffernan: Dare to disagree

มาร์กาเร็ต เฮฟเฟอร์นัน (Margaret Heffernan): จงกล้าที่จะแย้ง

Filmed:
3,921,245 views

โดยสัญชาตญาณแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่มาร์กาเร็ต เฮฟเฟอร์นัน แสดงให้เห็น (ซึ่งบางครั้งก็ขัดกับสัญชาตญาณ) ว่าคู่คิดที่ดีที่สุดไม่ใช่ผู้ที่คอยทำตัวเหมือนห้องสะท้อนเสียง และแสดงให้เห็นว่า ทีมวิจัย ความสัมพันธ์ และบริษัทที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ยอมให้ผู้คนเห็นต่างกันอย่างสุดขั้วได้ยังไง
- Management thinker
The former CEO of five businesses, Margaret Heffernan explores the all-too-human thought patterns -- like conflict avoidance and selective blindness -- that lead organizations and managers astray. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:16
In Oxfordฟอร์ด in the 1950s,
0
424
1862
ในอ๊อกซ์ฟอร์ด ในช่วงทศวรรษ 1950
00:18
there was a fantasticน่าอัศจรรย์ doctorคุณหมอ, who was very unusualผิดปกติ,
1
2286
3768
มีคุณหมอที่เก่งมากๆ คนหนึ่งที่แตกต่างจากปกติมาก
00:21
namedชื่อ Aliceอลิซ Stewartสจ๊วต.
2
6054
2032
เธอชื่อว่า อลิซ สจวร์ต
00:23
And Aliceอลิซ was unusualผิดปกติ partlyเป็นบางส่วน because, of courseหลักสูตร,
3
8086
3143
และอลิซแตกต่างจากปกติ ส่วนหนึ่งเพราะว่า
00:27
she was a womanหญิง, whichที่ was prettyน่ารัก rareหายาก in the 1950s.
4
11229
3480
เธอเป็นหมอผู้หญิง ซึ่งค่อนข้างหายากมากในช่วง 1950
00:30
And she was brilliantสุกใส, she was one of the,
5
14709
2111
และเธอเก่งมาก เธอเป็นหนึ่งใน
00:32
at the time, the youngestสุดท้อง Fellowมนุษย์ to be electedได้รับการเลือกตั้ง to the Royalหลวง Collegeวิทยาลัย of Physiciansแพทย์.
6
16820
4816
สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเลือกเข้าไปใน
ราชวิทยาลัยแห่งอายุรแพทย์
00:37
She was unusualผิดปกติ too because she continuedอย่างต่อเนื่อง to work after she got marriedแต่งงาน,
7
21636
3757
อีกสาเหตุหนึ่งที่เธอต่างจากปกติก็คือว่า
เธอยังคงทำงานต่อหลังจากที่เธอแต่งงาน
00:41
after she had kidsเด็ก,
8
25393
2095
หลังจากที่เธอมีลูก
00:43
and even after she got divorcedการหย่าร้าง and was a singleเดียว parentผู้ปกครอง,
9
27488
3008
และแม้กระทั่งหลังจากที่เธอหย่าและต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง
00:46
she continuedอย่างต่อเนื่อง her medicalทางการแพทย์ work.
10
30496
2283
เธอยังคงทำงานด้านการแพทย์ของเธอต่อไป
00:48
And she was unusualผิดปกติ because she was really interestedสนใจ in a newใหม่ scienceวิทยาศาสตร์,
11
32779
4120
และเธอแตกต่างไปจากปกติก็เพราะว่า
เธอสนใจเอามากๆ ในวิทยาศาสตร์แขนงใหม่
00:52
the emergingฉุกเฉิน fieldสนาม of epidemiologyระบาดวิทยา,
12
36899
2624
ที่เพิ่งกำเนิดขึ้นชื่อว่า สาขาระบาดวิทยา
00:55
the studyศึกษา of patternsรูปแบบ in diseaseโรค.
13
39523
3488
ซึ่งเป็นการศึกษารูปแบบการเกิดและแพร่กระจายของโรค
00:58
But like everyทุกๆ scientistนักวิทยาศาสตร์, she appreciatedชื่นชม
14
43011
2168
แต่ก็เหมือนนักวิทยาศาสตร์ทุกคน
เธอทราบดีว่า
01:01
that to make her markเครื่องหมาย, what she neededจำเป็น to do
15
45179
2256
เพื่อให้ตัวเองโดดเด่น สิ่งที่เธอต้องทำก็คือ
01:03
was find a hardยาก problemปัญหา and solveแก้ it.
16
47435
4518
มองหาปัญหาที่ยากๆ แล้วแก้มันซะ
01:07
The hardยาก problemปัญหา that Aliceอลิซ choseเลือก
17
51953
2544
ปัญหายากๆ ที่อลิซเลือก
01:10
was the risingที่เพิ่มสูงขึ้น incidenceเหตุการณ์ of childhoodวัยเด็ก cancersการเกิดโรคมะเร็ง.
18
54497
3398
ก็คือการเพิ่มขึ้นของมะเร็งในวัยเด็ก
01:13
Mostมากที่สุด diseaseโรค is correlatedมีลักษณะร่วมกัน with povertyความยากจน,
19
57895
2190
โรคส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความยากจน
01:15
but in the caseกรณี of childhoodวัยเด็ก cancersการเกิดโรคมะเร็ง,
20
60085
2269
แต่ในกรณีของมะเร็งในเด็กนั้น
01:18
the childrenเด็ก ๆ who were dyingเฮือกสุดท้าย seemedดูเหมือน mostlyส่วนใหญ่ to come
21
62354
2604
เด็กๆ ที่กำลังจะตาย เหมือนว่าส่วนใหญ่จะมาจาก
01:20
from affluentร่ำรวย familiesครอบครัว.
22
64958
2445
ครอบครัวที่มั่งคั่ง
01:23
So, what, she wanted to know,
23
67403
1743
เพราะงั้น เธอเลยอยากรู้ว่า
01:25
could explainอธิบาย this anomalyความผิดปกติ?
24
69146
3082
อะไรที่จะสามารถอธิบายความผิดปกตินี้ได้
01:28
Now, Aliceอลิซ had troubleปัญหา gettingได้รับ fundingการระดมทุน for her researchการวิจัย.
25
72228
2783
ตอนนั้น อลิซมีปัญหาในการหาทุนให้กับงานวิจัยของเธอ
01:30
In the endปลาย, she got just 1,000 poundsปอนด์
26
75011
1991
ในท้ายที่สุด เธอได้รับทุนแค่ 1,000 ปอนด์
01:32
from the Ladyผู้หญิง Tataทาทา Memorialที่ระลึก prizeรางวัล.
27
77002
2255
จากรางวัล Lady Tata Memorial
01:35
And that meantความหมาย she knewรู้ว่า she only had one shotการถ่ายภาพ
28
79257
2543
และนั่นหมายความว่า เธอรู้ดีว่าเธอมีโอกาสแค่ครั้งเดียว
01:37
at collectingการจัดเก็บภาษี her dataข้อมูล.
29
81800
2042
ที่จะเก็บข้อมูลของเธอให้ได้
01:39
Now, she had no ideaความคิด what to look for.
30
83842
2477
ตอนนั้น เธอไม่รู้เลยว่าเธอควรจะมองหาอะไรแน่
01:42
This really was a needleเข็ม in a haystackกองหญ้า sortประเภท of searchค้นหา,
31
86319
3116
มันเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว
01:45
so she askedถาม everything she could think of.
32
89435
2622
เธอก็เลยถามทุกอย่างที่เธอนึกออก
01:47
Had the childrenเด็ก ๆ eatenกิน boiledต้ม sweetsขนม?
33
92057
1833
เด็กๆ ได้กินลูกกวาดมั้ย?
01:49
Had they consumedถูกใช้ coloredมีสี drinksเครื่องดื่ม?
34
93890
2073
เด็กๆ ได้ดื่มเครื่องดื่มผสมสีรึเปล่า?
01:51
Did they eatกิน fishปลา and chipsเงิน?
35
95963
1647
พวกเขากินสเต็กปลากับมันฝรั่งทอดรึเปล่า?
01:53
Did they have indoorในร่ม or outdoorกลางแจ้ง plumbingประปา?
36
97610
2008
พวกเขามีระบบท่อประปาภายในหรือภายนอกบ้าน?
01:55
What time of life had they startedเริ่มต้น schoolโรงเรียน?
37
99618
3416
พวกเขาเริ่มเข้าโรงเรียนตอนอายุเท่าไหร่?
01:58
And when her carbonคาร์บอน copiedคัดลอก questionnaireแบบสอบถาม startedเริ่มต้น to come back,
38
103034
3368
และเมื่อเธอได้รับสำเนาแบบสอบถามของเธอกลับมา
02:02
one thing and one thing only jumpedเพิ่มขึ้น out
39
106402
2920
มีสิ่งหนึ่งและเป็นเพียงสิ่งเดียว ที่โดดเด่นออกมา
02:05
with the statisticalสถิติ clarityความชัดเจน of a kindชนิด that
40
109322
2536
ด้วยความชัดเจนทางสถิติอย่างมาก
02:07
mostมากที่สุด scientistsนักวิทยาศาสตร์ can only dreamฝัน of.
41
111858
2840
ชนิดที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่คาดคิดว่าจะเจอ
02:10
By a rateอัตรา of two to one,
42
114698
1920
ด้วยอัตราส่วนสองต่อหนึ่ง
02:12
the childrenเด็ก ๆ who had diedเสียชีวิต
43
116618
2081
เด็กๆ ที่เสียชีวิต
02:14
had had mothersมารดา who had been X-rayedX-rayed when pregnantตั้งครรภ์.
44
118699
6295
มีแม่ที่ได้รับการเอ็กซ์เรย์ขณะตั้งครรภ์
02:20
Now that findingคำวินิจฉัย flewบิน in the faceใบหน้า of conventionalตามธรรมเนียม wisdomความฉลาด.
45
124994
4505
ตอนนั้น ข้อค้นพบนี้ท้าทายความรู้ดั้งเดิมเข้าอย่างจัง
02:25
Conventionalตามธรรมเนียม wisdomความฉลาด heldที่จัดขึ้น
46
129499
1907
ความรู้ดั้งเดิมที่ว่า
02:27
that everything was safeปลอดภัย up to a pointจุด, a thresholdธรณีประตู.
47
131406
3997
ทุกอย่างปลอดภัยหากไม่มากเกินจุดๆ หนึ่ง
02:31
It flewบิน in the faceใบหน้า of conventionalตามธรรมเนียม wisdomความฉลาด,
48
135403
2327
มันท้าทายภูมิปัญญาดั้งเดิม
02:33
whichที่ was hugeใหญ่ enthusiasmความกระตือรือร้น for the coolเย็น newใหม่ technologyเทคโนโลยี
49
137730
3458
ซึ่งกำลังตื่นเต้นมากกับเทคโนโลยีสุดเจ๋งใหม่ล่าสุดในยุคนั้น
02:37
of that ageอายุ, whichที่ was the X-rayรังสีเอกซ์ machineเครื่อง.
50
141188
3646
ซึ่งก็คือ เครื่องเอ็กซ์เรย์
02:40
And it flewบิน in the faceใบหน้า of doctors'แพทย์ ideaความคิด of themselvesตัวเอง,
51
144834
4224
และมันขัดแย้งกับความเชื่อของแพทย์ที่เชื่อว่า
02:44
whichที่ was as people who helpedช่วย patientsผู้ป่วย,
52
149058
3808
พวกเขาเป็นผู้ช่วยเหลือคนไข้
02:48
they didn't harmอันตราย them.
53
152866
2696
พวกเขาไม่ได้ทำอันตรายคนไข้
02:51
Neverthelessแต่, Aliceอลิซ Stewartสจ๊วต rushedซึ่งได้วิ่ง to publishประกาศ
54
155562
3688
ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น อลิซ สจวร์ต ก็ได้รีบตีพิมพ์
02:55
her preliminaryเบื้องต้น findingsผลการวิจัย in The Lancetมีดหมอ in 1956.
55
159250
3584
ผลการค้นพบเบื้องต้นของเธอใน
วารสารการแพทย์ชื่อ The Lancet เมื่อปี 1956
02:58
People got very excitedตื่นเต้น, there was talk of the Nobelโนเบล Prizeรางวัล,
56
162834
4008
ผู้คนพากันตื่นเต้น
ถึงขั้นมีการพูดถึงรางวัลโนเบล
03:02
and Aliceอลิซ really was in a bigใหญ่ hurryรีบเร่ง
57
166842
2120
และอลิซอยู่ในสภาวะที่เร่งรีบมากจริงๆ
03:04
to try to studyศึกษา all the casesกรณี of childhoodวัยเด็ก cancerโรคมะเร็ง she could find
58
168962
3791
ในการพยายามที่จะศึกษา
มะเร็งวัยเด็กที่เธอพบเจอทุกราย
03:08
before they disappearedหายไป.
59
172753
2153
ก่อนที่พวกมันจะหายไป
03:10
In factความจริง, she need not have hurriedที่รีบร้อน.
60
174906
4344
อันที่จริง เธอไม่จำเป็นต้องรีบเลย
03:15
It was fullyอย่างเต็มที่ 25 yearsปี before the Britishอังกฤษ and medicalทางการแพทย์ --
61
179250
4191
มันเป็นเวลาถึง 25 ปีเต็มๆ ก่อนที่
03:19
Britishอังกฤษ and Americanอเมริกัน medicalทางการแพทย์ establishmentsสถานประกอบการ
62
183441
2872
หน่วยงานทางด้านการแพทย์ในอังกฤษและอเมริกา
03:22
abandonedถูกปล่อยปละละเลย the practiceการปฏิบัติ of X-rayingการตรวจด้วยรังสีเอกซ์ pregnantตั้งครรภ์ womenผู้หญิง.
63
186313
6104
จะยกเลิกการเอ็กซ์เรย์หญิงมีครรภ์
03:28
The dataข้อมูล was out there, it was openเปิด, it was freelyอิสระ availableใช้ได้,
64
192417
5481
ข้อมูลอยู่ตรงนั้น เป็นข้อมูลสาธารณะ
ที่เข้าถึงได้อย่างเสรี
03:33
but nobodyไม่มีใคร wanted to know.
65
197898
4224
แต่ไม่มีใครอยากที่จะรับรู้มัน
03:38
A childเด็ก a weekสัปดาห์ was dyingเฮือกสุดท้าย,
66
202122
2684
เด็กตายลงอาทิตย์ละคน
03:40
but nothing changedการเปลี่ยนแปลง.
67
204806
2733
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
03:43
Opennessความใจกว้าง aloneคนเดียว can't driveขับรถ changeเปลี่ยนแปลง.
68
207539
6255
การเปิดเผยข้อมูลเพียงอย่างเดียว
ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
03:49
So for 25 yearsปี Aliceอลิซ Stewartสจ๊วต had a very bigใหญ่ fightสู้ on her handsมือ.
69
213794
5617
เพราะงั้น เป็นเวลา 25 ปีเลยทีเดียว
ที่ อลิซ สจวร์ต ใช้เวลาต่อสู้เรื่องนี้
03:55
So, how did she know that she was right?
70
219411
3247
เอาล่ะ แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าเธอถูก?
03:58
Well, she had a fantasticน่าอัศจรรย์ modelแบบ for thinkingคิด.
71
222658
3663
คือ เธอมีวิธีการคิดที่น่าทึ่งมาก
04:02
She workedทำงาน with a statisticianนักสถิติ namedชื่อ Georgeจอร์จ KnealeKneale,
72
226321
2245
เธอทำงานกับนักสถิติที่ชื่อว่า จอร์จ นีล
04:04
and Georgeจอร์จ was prettyน่ารัก much everything that Aliceอลิซ wasn'tก็ไม่ได้.
73
228566
2384
และจอร์จก็มีลักษณะตรงข้ามกับอลิซแทบทุกอย่าง
04:06
So, Aliceอลิซ was very outgoingขาออก and sociableเป็นกันเอง,
74
230950
3069
อลิซเป็นคนชอบออกไปข้างนอกและชอบเข้าสังคม
04:09
and Georgeจอร์จ was a recluseสันโดษ.
75
234019
2458
จอร์จเป็นคนรักสันโดษ
04:12
Aliceอลิซ was very warmอบอุ่น, very empatheticความเห็นอกเห็นใจ with her patientsผู้ป่วย.
76
236477
4014
อลิซเป็นคนอบอุ่นมาก ช่างเข้าอกเข้าใจคนไข้ของเธอมาก
04:16
Georgeจอร์จ franklyตรงไปตรงมา preferredแนะนำ numbersหมายเลข to people.
77
240491
4039
จอร์จชอบตัวเลขมากกว่าผู้คนอย่างแท้จริง
04:20
But he said this fantasticน่าอัศจรรย์ thing about theirของพวกเขา workingการทำงาน relationshipความสัมพันธ์.
78
244530
3978
แต่เขาพูดสิ่งที่มหัศจรรย์
เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคน
04:24
He said, "My jobงาน is to proveพิสูจน์ Drดร. Stewartสจ๊วต wrongไม่ถูกต้อง."
79
248508
6336
เขาพูดว่า "งานของผมคือการพิสูจน์ว่าหมอสจวร์ตผิด"
04:30
He activelyอย่างกระตือรือร้น soughtขอ disconfirmationdisconfirmation.
80
254844
3557
เขามองหาข้อหักล้างอย่างกระตือรือร้น
04:34
Differentต่าง waysวิธี of looking at her modelsรุ่น,
81
258401
2337
พิจารณาโมเดลของเธอ ตัวเลขสถิติของเธอ
ในมุมที่แตกต่าง
04:36
at her statisticsสถิติ, differentต่าง waysวิธี of crunchingกระทืบ the dataข้อมูล
82
260738
3257
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีที่แตกต่างกันหลายๆ วิธี
04:39
in orderใบสั่ง to disproveพิสูจน์หักล้าง her.
83
263995
3063
เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเธอผิด
04:42
He saw his jobงาน as creatingการสร้าง conflictขัดกัน around her theoriesทฤษฎี.
84
267058
5624
เขามองงานของเขาว่าเป็นการสร้างความขัดแย้ง
ขึ้นรอบๆทฤษฎีของเธอ
04:48
Because it was only by not beingกำลัง ableสามารถ to proveพิสูจน์
85
272682
3096
เพราะว่าการที่พิสูจน์ไม่ได้
04:51
that she was wrongไม่ถูกต้อง,
86
275778
2368
ว่าเธอผิดนั้น
04:54
that Georgeจอร์จ could give Aliceอลิซ the confidenceความมั่นใจ she neededจำเป็น
87
278146
3121
เป็นหนทางเดียวที่จอร์จจะมอบ
ความมั่นใจแบบที่อลิซต้องการ
04:57
to know that she was right.
88
281267
2982
ในการที่จะรู้ว่าเธอถูกแล้วได้
05:00
It's a fantasticน่าอัศจรรย์ modelแบบ of collaborationการร่วมมือ --
89
284249
4675
มันเป็นโมเดลในการทำงานร่วมกันที่ดีมาก
05:04
thinkingคิด partnersพาร์ทเนอร์ who aren'tไม่ได้ echoเสียงสะท้อน chambersห้องผู้พิพากษา.
90
288924
5007
คู่คิดที่ไม่ใช่ผู้ที่คอยทำตัวเหมือนห้องสะท้อนเสียง
05:09
I wonderน่าแปลกใจ how manyจำนวนมาก of us have,
91
293931
2352
ฉันสงสัยว่า จะมีสักกี่คนในพวกเราที่มี
05:12
or dareกล้า to have, suchอย่างเช่น collaboratorsทำงานร่วมกัน.
92
296283
6919
หรือกล้าที่จะมี เพื่อนร่วมงานแบบนั้น
05:19
Aliceอลิซ and Georgeจอร์จ were very good at conflictขัดกัน.
93
303202
3777
อลิซกับจอร์จนั้นทำได้ดีมากในการขัดแย้งกัน
05:22
They saw it as thinkingคิด.
94
306979
3136
พวกเขามองว่ามันเป็นการคิด
05:26
So what does that kindชนิด of constructiveสร้างสรรค์ conflictขัดกัน requireจำเป็นต้อง?
95
310115
4273
แล้ว ถ้าจะสร้างความขัดแย้งเชิงสร้างสรรค์แบบนั้นต้องทำอย่างไร?
05:30
Well, first of all, it requiresต้องมี that we find people
96
314388
3375
อันดับแรก เราต้องหาคนที่
05:33
who are very differentต่าง from ourselvesตัวเรา.
97
317763
2648
แตกต่างจากเราเอามากๆ
05:36
That meansวิธี we have to resistต่อต้าน the neurobiologicalneurobiological driveขับรถ,
98
320411
4336
ซึ่งหมายความว่า เราจะต้องต้านทาน
แรงขับเคลื่ือนเชิงประสาทชีววิทยา
05:40
whichที่ meansวิธี that we really preferชอบ people mostlyส่วนใหญ่ like ourselvesตัวเรา,
99
324747
4504
ที่ว่า เรามักจะชื่นชอบ
คนที่คล้ายกับเราค่อนข้างมาก
05:45
and it meansวิธี we have to seekแสวงหา out people
100
329251
2224
และมันหมายความว่า เราต้องมองหาผู้คน
05:47
with differentต่าง backgroundsภูมิหลัง, differentต่าง disciplinesสาขาวิชา,
101
331475
2472
ที่มาจากปูมหลังที่แตกต่างกัน
สาขาที่ต่างกัน
05:49
differentต่าง waysวิธี of thinkingคิด and differentต่าง experienceประสบการณ์,
102
333947
4151
วิธีการคิดที่ต่างกัน
และประสบการณ์ที่ต่างกัน
05:53
and find waysวิธี to engageว่าจ้าง with them.
103
338098
3865
และมองหาทางที่จะเข้าไปผูกสัมพันธ์กับพวกเขา
05:57
That requiresต้องมี a lot of patienceความอดทน and a lot of energyพลังงาน.
104
341963
4644
นั่นจำเป็นต้องใช้ความอดทน
และพลังงานอย่างมากเลยทีเดียว
06:02
And the more I've thought about this,
105
346607
1811
และยิ่งฉันคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่
06:04
the more I think, really, that that's a kindชนิด of love.
106
348418
5161
ฉันก็ยิ่งคิดว่า จริงๆแล้ว นั่นเป็นความรักประเภทหนึ่ง
06:09
Because you simplyง่ายดาย won'tเคยชิน commitผูกมัด that kindชนิด of energyพลังงาน
107
353579
3069
เพราะคุณจะไม่มีทางยอมทุ่มพลังงานและเวลา
06:12
and time if you don't really careการดูแล.
108
356648
4691
มากขนาดนั้น ถ้าคุณไม่ได้ใส่ใจมันจริงๆ
06:17
And it alsoด้วย meansวิธี that we have to be preparedเตรียมพร้อม to changeเปลี่ยนแปลง our mindsจิตใจ.
109
361339
4460
และมันก็ยังหมายความด้วยว่า
เราจะต้องเตรียมตัวที่จะเปลี่ยนความคิดของเรา
06:21
Alice'sอลิซ daughterลูกสาว told me
110
365799
2364
ลูกสาวของอลิซบอกฉันว่า
06:24
that everyทุกๆ time Aliceอลิซ wentไป head-to-headตัวต่อตัว with a fellowมนุษย์ scientistนักวิทยาศาสตร์,
111
368163
3112
ทุกครั้งที่อลิซต้องออกไปต่อกรกับ
เพื่อนนักวิทยาศาสตร์แบบตัวต่อตัว
06:27
they madeทำ her think and think and think again.
112
371275
4184
พวกเขาทำให้เธอคิดแล้วคิดอีก คิดแล้วคิดอีก
06:31
"My motherแม่," she said, "My motherแม่ didn't enjoyสนุก a fightสู้,
113
375459
4018
"แม่ของฉัน" เธอพูด "แม่ของฉันไม่สนุกกับการต่อสู้นั้นเลย
06:35
but she was really good at them."
114
379477
5142
แต่เธอทำได้ดีมากจริงๆ"
06:40
So it's one thing to do that in a one-to-oneหนึ่งต่อหนึ่ง relationshipความสัมพันธ์.
115
384619
4170
เพราะงั้น มันเป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องทำ
ในการมีความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง
06:44
But it strikesการนัดหยุดงาน me that the biggestที่ใหญ่ที่สุด problemsปัญหาที่เกิดขึ้น we faceใบหน้า,
116
388789
3287
แต่สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจก็คือว่า
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเราเจอ
06:47
manyจำนวนมาก of the biggestที่ใหญ่ที่สุด disastersภัยพิบัติ that we'veเราได้ experiencedมีประสบการณ์,
117
392076
2874
หายนะครั้งใหญ่ๆ ที่พวกเราเคยประสบพบผ่าน
06:50
mostlyส่วนใหญ่ haven'tยังไม่ได้ come from individualsบุคคล,
118
394950
1951
ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มาจากปัจเจกบุคคล
06:52
they'veพวกเขาได้ come from organizationsองค์กร,
119
396901
1888
มันมาจากองค์กรต่างหาก
06:54
some of them biggerที่ใหญ่กว่า than countriesประเทศ,
120
398789
2008
บางองค์กรก็ใหญ่กว่าระดับประเทศ
06:56
manyจำนวนมาก of them capableสามารถ of affectingน่าสงสาร hundredsหลายร้อย,
121
400797
2260
บ้างก็สามารถที่จะส่งผลต่อคนเป็นร้อย
06:58
thousandsพัน, even millionsล้าน of livesชีวิต.
122
403057
4003
เป็นพัน หรือแม้กระทั่งเป็นล้านๆชีวิตได้
07:02
So how do organizationsองค์กร think?
123
407060
4438
เพราะงั้น องค์กรมีวิธีคิดยังไงล่ะ?
07:07
Well, for the mostมากที่สุด partส่วนหนึ่ง, they don't.
124
411498
4026
เอาล่ะ ส่วนใหญ่ พวกเขาไม่คิดกันหรอก
07:11
And that isn't because they don't want to,
125
415524
2993
และนั่นไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่อยากคิด
07:14
it's really because they can't.
126
418517
2405
แต่มันเป็นเพราะพวกเขาคิดไม่ได้ต่างหาก
07:16
And they can't because the people insideภายใน of them
127
420922
3347
และคิดไม่ได้เพราะ ผู้คนที่อยู่ในองค์กรนั้นๆ
07:20
are too afraidเกรงกลัว of conflictขัดกัน.
128
424269
4208
ที่กลัวความขัดแย้งมากจนเกินไป
07:24
In surveysการสำรวจ of Europeanชาวยุโรป and Americanอเมริกัน executivesผู้บริหารระดับสูง,
129
428477
2864
ในการสำรวจผู้บริหารชาวยุโรปและอเมริกัน
07:27
fullyอย่างเต็มที่ 85 percentเปอร์เซ็นต์ of them acknowledgedที่ยอมรับ
130
431341
2970
85 เปอร์เซ็นต์เต็มๆ ตระหนักว่า
07:30
that they had issuesปัญหา or concernsความกังวล at work
131
434311
3517
พวกเขามีประเด็นหรือข้อกังวลในที่ทำงาน
07:33
that they were afraidเกรงกลัว to raiseยก.
132
437828
3633
ที่พวกเขาไม่กล้าจะเอ่ยมันขึ้นมา
07:37
Afraidเกรงกลัว of the conflictขัดกัน that that would provokeกระตุ้น,
133
441461
3159
กลัวมันจะกระตุ้นความขัดแย้ง
07:40
afraidเกรงกลัว to get embroiledพัวพัน in argumentsข้อโต้แย้ง
134
444620
2368
กลัวที่จะเข้าไปพัวพันในการโต้เถียง
07:42
that they did not know how to manageจัดการ,
135
446988
2031
ที่พวกเขาไม่รู้จะจัดการยังไง
07:44
and feltรู้สึกว่า that they were boundขอบเขต to loseสูญเสีย.
136
449019
4577
และรู้สึกว่า ยังไงก็ต้องแพ้อยู่ดี
07:49
Eighty-fiveแปดสิบห้า percentเปอร์เซ็นต์ is a really bigใหญ่ numberจำนวน.
137
453596
6177
85 เปอร์เซ็นต์เป็นจำนวนที่เยอะมาก
07:55
It meansวิธี that organizationsองค์กร mostlyส่วนใหญ่ can't do
138
459773
2815
มันหมายความว่า องค์กรส่วนใหญ่มักจะไม่สามารถ
07:58
what Georgeจอร์จ and Aliceอลิซ so triumphantlyประสบความสำเร็จ did.
139
462588
2328
ทำในสิ่งที่จอร์จและอลิซทำเอาไว้อย่างภาคภูมิได้
08:00
They can't think togetherด้วยกัน.
140
464916
4399
พวกเขาไม่สามารถคิดร่วมกันได้
08:05
And it meansวิธี that people like manyจำนวนมาก of us,
141
469315
2241
และนั่นหมายความว่า ผู้คนอย่างเราทั้งหลาย
08:07
who have runวิ่ง organizationsองค์กร,
142
471556
2184
ที่บริหารองค์กรต่างๆ
08:09
and goneที่ไปแล้ว out of our way to try to find the very bestดีที่สุด people we can,
143
473740
3567
และพยายามอย่างสุดความสามารถ
ที่จะหาคนที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้
08:13
mostlyส่วนใหญ่ failล้มเหลว to get the bestดีที่สุด out of them.
144
477307
6273
ส่วนใหญ่แล้ว
ล้มเหลวที่จะดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากพวกเขา
08:19
So how do we developพัฒนา the skillsทักษะ that we need?
145
483580
3336
แล้วเราจะพัฒนาทักษะที่เราต้องการได้ยังไงล่ะ?
08:22
Because it does take skillความสามารถ and practiceการปฏิบัติ, too.
146
486916
4083
เพราะมันจำเป็นต้องใช้ทั้งทักษะและการฝึกฝน
08:26
If we aren'tไม่ได้ going to be afraidเกรงกลัว of conflictขัดกัน,
147
490999
3414
ถ้าเราจะไม่ให้เกิดความรู้สึกกลัวความขัดแย้ง
08:30
we have to see it as thinkingคิด,
148
494413
2159
เราต้องมองมันว่าเป็น "การคิด"
08:32
and then we have to get really good at it.
149
496572
4336
และ เราก็ต้องพยายามทำมันให้ดีให้ได้
08:36
So, recentlyเมื่อเร็ว ๆ นี้, I workedทำงาน with an executiveฝ่ายบริหาร namedชื่อ Joeโจ,
150
500908
4264
เมื่อเร็วๆ นี้ ฉันทำงานกับผู้บริหารที่ชื่อ โจ
08:41
and Joeโจ workedทำงาน for a medicalทางการแพทย์ deviceเครื่อง companyบริษัท.
151
505172
3472
โจทำงานให้กับบริษัทเครื่องมือทางการแพทย์
08:44
And Joeโจ was very worriedกลุ้มใจ about the deviceเครื่อง that he was workingการทำงาน on.
152
508644
2975
โจเป็นกังวลเอามากๆ กับเครื่องมือที่เขากำลังทำงานอยู่
08:47
He thought that it was too complicatedซับซ้อน
153
511619
3025
เขาคิดว่ามันสลับซับซ้อนเกินไป
08:50
and he thought that its complexityความซับซ้อน
154
514644
1864
และเขาคิดว่าความซับซ้อนของมัน
08:52
createdสร้าง marginsอัตรากำไรขั้นต้น of errorความผิดพลาด that could really hurtทำให้เจ็บ people.
155
516508
4267
จะทำให้เกิดความผิดพลาด
ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนได้
08:56
He was afraidเกรงกลัว of doing damageความเสียหาย to the patientsผู้ป่วย he was tryingพยายาม to help.
156
520775
4140
เขากลัวว่ามันจะทำความเสียหายให้แก่คนไข้
ที่เขากำลังพยายามจะช่วย
09:00
But when he lookedมอง around his organizationองค์กร,
157
524915
2305
แต่เมื่อเขามองไปรอบๆ ภายในองค์กรของเขา
09:03
nobodyไม่มีใคร elseอื่น seemedดูเหมือน to be at all worriedกลุ้มใจ.
158
527220
4461
คนอื่นๆ ดูไม่มีใครกังวลใดๆ เลย
09:07
So, he didn't really want to say anything.
159
531681
2555
เขาเลยไม่อยากจะพูดอะไรออกมา
09:10
After all, maybe they knewรู้ว่า something he didn't.
160
534236
2184
บางทีพวกเขาอาจจะรู้บางอย่างที่ตัวเขาไม่รู้
09:12
Maybe he'dเขาต้องการ look stupidโง่.
161
536420
2584
บางทีเขาอาจจะดูโง่ก็ได้
09:14
But he keptเก็บไว้ worryingน่าหนักใจ about it,
162
539004
2206
แต่เขาก็ยังคงกังวลต่อไปเรือยๆ
09:17
and he worriedกลุ้มใจ about it so much that he got to the pointจุด
163
541210
3046
และเขากังวลเกี่ยวกับมันมากจนกระทั่งถึงจุดที่
09:20
where he thought the only thing he could do
164
544256
2159
เขาคิดว่า สิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ก็คือ
09:22
was leaveออกจาก a jobงาน he lovedรัก.
165
546415
4130
ออกจากงานที่เขารัก
09:26
In the endปลาย, Joeโจ and I foundพบ a way
166
550545
4000
ในท้ายที่สุด โจกับฉันเจอทางออกสำหรับเขา
09:30
for him to raiseยก his concernsความกังวล.
167
554545
1855
ที่จะยกประเด็นความกังวลของเขาขึ้นมา
09:32
And what happenedที่เกิดขึ้น then is what almostเกือบจะ always
168
556400
2871
และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็คือ
สิ่งที่มักจะเกิดขึ้น
09:35
happensที่เกิดขึ้น in this situationสถานการณ์.
169
559271
1594
ในสถานการณ์แบบนี้เสมอๆ
09:36
It turnedหัน out everybodyทุกคน had exactlyอย่างแน่นอน the sameเหมือนกัน
170
560865
3221
มันกลายเป็นว่าทุกคน
09:39
questionsคำถาม and doubtsข้อสงสัย.
171
564086
1746
มีคำถามและความสงสัยแบบเดียวกันเปี๊ยบ
09:41
So now Joeโจ had alliesฝ่ายพันธมิตร. They could think togetherด้วยกัน.
172
565832
4032
แล้วตอนนี้โจก็มีพวกแล้ว
พวกเขาสามารถช่วยกันคิดได้
09:45
And yes, there was a lot of conflictขัดกัน and debateอภิปราย
173
569864
3264
และแน่นอน มันเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการโต้แย้ง
09:49
and argumentการโต้เถียง, but that allowedได้รับอนุญาต everyoneทุกคน around the tableตาราง
174
573128
4304
และการถกเถียง แต่นั่นทำให้ทุกคนรอบๆ บนโต๊ะสนทนา
09:53
to be creativeความคิดสร้างสรรค์, to solveแก้ the problemปัญหา,
175
577432
4080
มีความคิดสร้างสรรค์
ในการพยายามแก้ปัญหา
09:57
and to changeเปลี่ยนแปลง the deviceเครื่อง.
176
581512
4328
และปรับเปลี่ยนเครื่องมือนั้น
10:01
Joeโจ was what a lot of people mightอาจ think of
177
585840
3376
โจเป็นแบบที่ใครหลายๆคนอาจจะถึง
10:05
as a whistle-blowerนกหวีดเป่า,
178
589216
2272
ในฐานะเป็นคนที่เริ่มเป่านกหวีด
10:07
exceptยกเว้น that like almostเกือบจะ all whistle-blowersเป่านกหวีด,
179
591488
2715
ยกเว้นที่ว่า เหมือนๆกับคนเป่านกหวีดส่วนใหญ่
10:10
he wasn'tก็ไม่ได้ a crankข้อเหวี่ยง at all,
180
594203
2373
เขาไม่ใช่คนประหลาดเลยสักนิด
10:12
he was passionatelyจู๋จี๋ devotedอุทิศ to the organizationองค์กร
181
596576
3448
เขาทุ่มเททำงานด้วยใจรักให้กับองค์กร
10:15
and the higherสูงกว่า purposesวัตถุประสงค์ that that organizationองค์กร servedทำหน้าที่.
182
600024
3448
และให้กับเป้าประสงค์ที่องค์กรนั้นยึดถืออยู่
10:19
But he had been so afraidเกรงกลัว of conflictขัดกัน,
183
603472
3816
แต่เขาก็เคยกลัวความขัดแย้งเอามากๆ
10:23
untilจนกระทั่ง finallyในที่สุด he becameกลายเป็น more afraidเกรงกลัว of the silenceความเงียบ.
184
607288
5080
จนกระทั่ง ท้ายที่สุด
กลายเป็นว่าเขากลัวความเงียบมากกว่า
10:28
And when he daredกล้า to speakพูด,
185
612368
1859
และเมื่อเขากล้าที่จะพูด
10:30
he discoveredค้นพบ much more insideภายใน himselfตัวเขาเอง
186
614227
3398
เขาค้นพบอะไรมากมายภายใต้ตัวตนของเขา
10:33
and much more give in the systemระบบ than he had ever imaginedจินตนาการ.
187
617625
5242
และสามารถให้อะไรกับระบบได้มากมาย
มากกว่าที่เขาเคยจินตนาการเอาไว้เสียอีก
10:38
And his colleaguesเพื่อนร่วมงาน don't think of him as a crankข้อเหวี่ยง.
188
622867
3331
และเพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนประหลาด
10:42
They think of him as a leaderผู้นำ.
189
626198
5128
พวกเขาคิดถึงโจในฐานะผู้นำ
10:47
So, how do we have these conversationsการสนทนา more easilyอย่างง่ายดาย
190
631326
4368
แล้วเราจะทำให้เกิดการสนทนาประเภทนี้ให้ง่ายขึ้น
10:51
and more oftenบ่อยครั้ง?
191
635694
1913
และบ่อยขึ้นได้ยังไงล่ะ?
10:53
Well, the Universityมหาวิทยาลัย of Delftเดลฟ์
192
637607
1986
มหาวิทยาลัยเดลฟ์ (University of Delft)
10:55
requiresต้องมี that its PhDปริญญาเอก studentsนักเรียน
193
639593
2397
ได้กำหนดให้นักศึกษาปริญญาเอก
10:57
have to submitเสนอ fiveห้า statementsงบ that they're preparedเตรียมพร้อม to defendแก้ต่าง.
194
641990
3913
ต้องส่งข้อความ 5 ข้อความ
ที่พวกเขาพร้อมที่จะถกด้วยเหตุผล
11:01
It doesn't really matterเรื่อง what the statementsงบ are about,
195
645903
3384
มันไม่สำคัญว่าข้อความเหล่านั้นจะเกี่ยวกับอะไร
11:05
what mattersเรื่อง is that the candidatesผู้สมัคร are willingเต็มใจ and ableสามารถ
196
649287
3792
สิ่งสำคัญก็คือว่า นักศึกษาเหล่านั้นเต็มใจและสามารถ
11:08
to standยืน up to authorityผู้มีอำนาจ.
197
653079
2603
ที่จะลุกขึ้นชี้แจงกับผู้มีอำนาจได้
11:11
I think it's a fantasticน่าอัศจรรย์ systemระบบ,
198
655682
2364
ฉันคิดว่านี่เป็นระบบที่เยี่ยมมาก
11:13
but I think leavingการออกจาก it to PhDปริญญาเอก candidatesผู้สมัคร
199
658046
2513
แต่ฉันคิดว่าการปล่อยให้เรื่องนี้
เป็นเรื่องของนักศึกษาปริญญาเอกนั้น
11:16
is farห่างไกล too fewน้อย people, and way too lateสาย in life.
200
660559
4305
มันกลายเป็นเรื่องของคนจำนวนน้อยเกินไป
และสายไปมากๆ สำหรับชีวิตหนึ่ง
11:20
I think we need to be teachingการสอน these skillsทักษะ
201
664864
3166
ฉันคิดว่าเราต้องมีการสอนทักษะนี้
11:23
to kidsเด็ก and adultsผู้ใหญ่ at everyทุกๆ stageเวที of theirของพวกเขา developmentพัฒนาการ,
202
668030
4080
ให้แก่เด็กและผู้ใหญ่ ในทุกขั้นของการพัฒนาของพวกเขา
11:28
if we want to have thinkingคิด organizationsองค์กร
203
672110
2449
ถ้าหากเราต้องการที่จะมีองค์กรแห่งการคิด
11:30
and a thinkingคิด societyสังคม.
204
674559
3647
และสังคมแห่งการคิด
11:34
The factความจริง is that mostมากที่สุด of the biggestที่ใหญ่ที่สุด catastrophesหายนะ that we'veเราได้ witnessedร่วมเป็นสักขีพยาน
205
678206
5618
ความจริงก็คือ ความหายนะอันยิ่งใหญ่
ที่พวกเราได้พบเห็นส่วนใหญ่
11:39
rarelyไม่ค่อยมี come from informationข้อมูล that is secretลับ or hiddenซ่อนเร้น.
206
683824
6391
แทบจะไม่ได้มาจากข้อมูลที่เป็นความลับหรือถูกปิดซ่อน
11:46
It comesมา from informationข้อมูล that is freelyอิสระ availableใช้ได้ and out there,
207
690215
4304
มันมาจากข้อมูลที่เข้าถึงได้อย่างอิสระและอยู่ตรงหน้า
11:50
but that we are willfullyโดยมีเจตนา blindตาบอด to,
208
694519
2384
แต่เรากลับตั้งใจมองไม่เห็นมัน
11:52
because we can't handleจัดการ, don't want to handleจัดการ,
209
696903
3128
เพราะเราไม่สามารถจัดการ
หรือไม่ต้องการที่จะจัดการ
11:55
the conflictขัดกัน that it provokesกระตุ้นความ.
210
700031
4407
ความขัดแย้งที่มันก่อให้เกิดขึ้นมา
12:00
But when we dareกล้า to breakหยุด that silenceความเงียบ,
211
704438
2929
แต่เมื่อเรากล้าที่จะทำลายความเงียบ
12:03
or when we dareกล้า to see,
212
707367
2657
หรือเมื่อเรากล้าที่จะมอง
12:05
and we createสร้าง conflictขัดกัน,
213
710024
2255
และเราสร้างความขัดแย้งขึ้น
12:08
we enableทำให้สามารถ ourselvesตัวเรา and the people around us
214
712279
2625
เราจะทำให้ตัวเราเองและผู้คนรอบๆ ตัวเรา
12:10
to do our very bestดีที่สุด thinkingคิด.
215
714904
4246
ทำการคิดอย่างดีที่สุด
12:15
Openเปิด informationข้อมูล is fantasticน่าอัศจรรย์,
216
719150
3376
ข้อมูลที่เปิดเผยนั้นดีมากๆ
12:18
openเปิด networksเครือข่าย are essentialสำคัญ.
217
722526
3184
เครือข่ายที่เปิดเผยก็จำเป็น
12:21
But the truthความจริง won'tเคยชิน setชุด us freeฟรี
218
725710
1977
แต่ความจริงไม่อาจทำให้เราเป็นอิสระ
12:23
untilจนกระทั่ง we developพัฒนา the skillsทักษะ and the habitนิสัย and the talentความสามารถพิเศษ
219
727687
3764
จนกว่าเราจะพัฒนาทักษะ และนิสัย และพรสวรรค์
12:27
and the moralคุณธรรม courageความกล้าหาญ to use it.
220
731451
4137
และความกล้าทางศีลธรรมที่จะใช้มัน
12:31
Opennessความใจกว้าง isn't the endปลาย.
221
735588
3760
การเปิดเผยไม่ใช่จุดจบ
12:35
It's the beginningการเริ่มต้น.
222
739348
2642
มันเป็นจุดเริ่มต้นค่ะ
12:37
(Applauseการปรบมือ)
223
741990
11479
(เสียงปรบมือ)

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Margaret Heffernan - Management thinker
The former CEO of five businesses, Margaret Heffernan explores the all-too-human thought patterns -- like conflict avoidance and selective blindness -- that lead organizations and managers astray.

Why you should listen

How do organizations think? In her book Willful Blindness, Margaret Heffernan examines why businesses and the people who run them often ignore the obvious -- with consequences as dire as the global financial crisis and Fukushima Daiichi nuclear disaster.

Heffernan began her career in television production, building a track record at the BBC before going on to run the film and television producer trade association IPPA. In the US, Heffernan became a serial entrepreneur and CEO in the wild early days of web business. She now blogs for the Huffington Post and BNET.com. Her latest book, Beyond Measure, a TED Books original, explores the small steps companies can make that lead to big changes in their culture.

More profile about the speaker
Margaret Heffernan | Speaker | TED.com