ABOUT THE SPEAKER
Naomi Oreskes - Historian of science
Naomi Oreskes is a historian of science who uses reason to fight climate change denial.

Why you should listen

Noami Oreskes is a professor of the History of Science and an affiliated professor of Earth and Planetary Sciences at Harvard University. She received her PhD at Stanford in 1990 in the Graduate Special Program in Geological Research and History of Science.

In her 2004 paper published in Science, "Beyond the Ivory Tower: The Scientific Consensus on Climate Change,” Oreskes analyzed nearly 1,000 scientific journals to directly assess the magnitude of scientific consensus around anthropogenic climate change. The paper was famously cited by Al Gore in his film An Inconvenient Truth and led Oreskes to testify in front of the U.S. Senate Committee on Environment and Public Works.

Oreskes is the co-author of the 2010 book Merchants of Doubt, which looks at how the tobacco industry attempted to cast doubt on the link between smoking and lung cancer, and the 2014 book The Collapse of Western Civilization: A View from the Future, which looks back at the present from the year 2093. Both are written with Erik M. Conway.

More profile about the speaker
Naomi Oreskes | Speaker | TED.com
TEDSalon NY2014

Naomi Oreskes: Why we should trust scientists

นาโอมิ ออเรสเคส (Naomi Oreskes): ทำไมเราควรเชื่อนักวิทยาศาสตร์

Filmed:
1,316,791 views

ปัญหาใหญ่ๆ มากมายในโลกต้องการคำตอบจากนักวิทยาศาสตร์ แต่ทำไมเราควรที่จะเชื่อสิ่งที่พวกเขาพูด นักประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ นาโอมิ ออเรสเคส ครุ่นคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรากับความเชื่อ และเฟ้นเลือกเอาสามปัญหากับแนวคิดทั่วไปที่มีต่อการสอบสวนทางวิทยาศาสตร์ และให้เหตุผลของเธอว่าทำไมเราควรที่จะเชื่อวิทยาศาสตร์
- Historian of science
Naomi Oreskes is a historian of science who uses reason to fight climate change denial. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
Everyทุกๆ day we faceใบหน้า issuesปัญหา like climateภูมิอากาศ changeเปลี่ยนแปลง
0
930
3128
ทุกๆ วันเราเจอปัญหาอย่าง
การเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ
00:16
or the safetyความปลอดภัย of vaccinesวัคซีน
1
4058
1430
หรือความปลอดภัยของวัคซีน
00:17
where we have to answerตอบ questionsคำถาม whoseใคร answersคำตอบ
2
5488
3040
ซึ่งคำถามที่เราต้องตอบนั้น
00:20
relyวางใจ heavilyหนัก on scientificวิทยาศาสตร์ informationข้อมูล.
3
8528
3461
ต้องพึ่งพาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาก
00:23
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ tell us that the worldโลก is warmingภาวะโลกร้อน.
4
11989
2881
นักวิทยาศาสตร์บอกเราว่าโลกของเราร้อนขึ้น
00:26
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ tell us that vaccinesวัคซีน are safeปลอดภัย.
5
14870
2541
นักวิทยาศาสตร์บอกเราว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย
00:29
But how do we know if they are right?
6
17411
2054
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาพูดถูก
00:31
Why should be believe the scienceวิทยาศาสตร์?
7
19465
1964
ทำไมเราต้องเชื่อวิทยาศาสตร์ด้วย
00:33
The factความจริง is, manyจำนวนมาก of us actuallyแท้จริง
don't believe the scienceวิทยาศาสตร์.
8
21429
3469
อันที่จริง พวกเราหลายคนไม่เชื่อวิทยาศาสตร์
00:36
Publicสาธารณะ opinionความคิดเห็น pollsโพล consistentlyเสมอต้นเสมอปลาย showแสดง
9
24898
2176
ความคิดเห็นจากการทำการสำรวจ
แสดงให้เห็นเสมอว่า
00:39
that significantสำคัญ proportionsสัดส่วน of the Americanอเมริกัน people
10
27074
3010
คนอเมริกันจำนวนมากทีเดียว
00:42
don't believe the climateภูมิอากาศ is
warmingภาวะโลกร้อน dueครบกำหนด to humanเป็นมนุษย์ activitiesกิจกรรม,
11
30084
3541
ที่ไม่เชื่อว่าภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป
เพราะการกระทำของมนุษย์
00:45
don't think that there is
evolutionวิวัฒนาการ by naturalโดยธรรมชาติ selectionการเลือก,
12
33625
2939
ไม่คิดว่ามี วิวัฒนาการ
ที่เกิดจากการคัดเลือกทางธรรมชาติ
00:48
and aren'tไม่ได้ persuadedชักชวน by the safetyความปลอดภัย of vaccinesวัคซีน.
13
36564
3901
และไม่ได้คล้อยตามว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย
00:52
So why should we believe the scienceวิทยาศาสตร์?
14
40465
3631
แล้วทำไมเราต้องเชื่อวิทยาศาสตร์
00:56
Well, scientistsนักวิทยาศาสตร์ don't like talkingการพูด about
scienceวิทยาศาสตร์ as a matterเรื่อง of beliefความเชื่อ.
15
44096
3611
นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ชอบ
ที่จะพูดถึงวิทยาศาสตร์ว่าเป็นความเชื่อ
00:59
In factความจริง, they would contrastความแตกต่าง scienceวิทยาศาสตร์ with faithความเชื่อ,
16
47707
2587
ที่จริง พวกเขามักทำให้เห็นความต่างระหว่าง
วิทยาศาสตร์และความศรัทธา
01:02
and they would say beliefความเชื่อ is the domainโดเมน of faithความเชื่อ.
17
50294
2966
และพวกเขาอาจบอกว่า
ความเชื่ออยู่ในขอบเขตของความศรัทธา
01:05
And faithความเชื่อ is a separateแยก thing
apartต่างหาก and distinctแตกต่าง from scienceวิทยาศาสตร์.
18
53260
3778
และความศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่ต่าง
และห่างออกไปจากวิทยาศาสตร์
01:09
Indeedจริง they would say religionศาสนา is basedซึ่งเป็นรากฐาน on faithความเชื่อ
19
57038
3152
พวกเขาจะพูดแน่ๆ ว่าศาสนา
นั้นอยู่บนรากฐานของความศรัทธา
01:12
or maybe the calculusแคลคูลัส of Pascal'sปาสคาล wagerเดิมพัน.
20
60190
3694
หรือบางทีจะขอใช้แคลคูลัสของปาสกัล
เป็นเดิมพัน
01:15
Blaiseเบลส Pascalปาสคาล was a 17th-centuryศตวรรษ TH mathematicianนักคณิตศาสตร์
21
63884
2676
เบลส ปาสกัล (Blaise Pascal)
นักคณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 17
01:18
who triedพยายาม to bringนำมาซึ่ง scientificวิทยาศาสตร์
reasoningเหตุผล to the questionคำถาม of
22
66560
2810
ผู้ซึ่งพยายามที่จะนำการให้เหตุผล
ทางวิทยาศาสตร์ไปใช้กับคำถามที่ว่า
01:21
whetherว่า or not he should believe in God,
23
69370
1872
เขาควรเชื่อในพระเจ้าหรือไม่
01:23
and his wagerเดิมพัน wentไป like this:
24
71242
2604
และเดิมพันของเขาก็คือ
01:25
Well, if God doesn't existมีอยู่
25
73846
2549
เอาล่ะ ถ้าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง
01:28
but I decideตัดสิน to believe in him
26
76395
2025
แต่ฉันตัดสินใจที่จะเชื่อในพระเจ้า
01:30
nothing much is really lostสูญหาย.
27
78420
1978
ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรมาก
01:32
Maybe a fewน้อย hoursชั่วโมง on Sundayวันอาทิตย์.
28
80398
1613
บางทีก็แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงตอนวันอาทิตย์
01:34
(Laughterเสียงหัวเราะ)
29
82011
993
(เสียงหัวเราะ)
01:35
But if he does existมีอยู่ and I don't believe in him,
30
83004
3381
แต่ถ้าพระองค์มีอยู่จริง แล้วผมไม่เชื่อ
01:38
then I'm in deepลึก troubleปัญหา.
31
86385
2017
ทีนี้ล่ะ ผมเจอปัญหาใหญ่แน่
01:40
And so Pascalปาสคาล said, we'dพุธ better believe in God.
32
88402
3036
ปาสกัลก็เลยบอกว่า เราควรที่จะเชื่อในพระเจ้า
01:43
Or as one of my collegeวิทยาลัย professorsอาจารย์ said,
33
91438
2172
หรืออย่างหนึ่งที่ศาสตราจารย์ของฉันบอก
01:45
"He clutchedกำ for the handrailราวสำหรับมือจับของขั้นบันไดหรือแทน of faithความเชื่อ."
34
93610
2226
"เขายึดหลักเกาะเกี่ยวกับความศรัทธา"
01:47
He madeทำ that leapเผ่น of faithความเชื่อ
35
95836
1936
เขาทำการกระโจนออกไปด้วยความศรัทธา
01:49
leavingการออกจาก scienceวิทยาศาสตร์ and rationalismหลักการให้หรือใช้เหตุผล behindหลัง.
36
97772
4524
ทิ้งวิทยาศาสตร์และหลักความเชื่อเรื่องเหตุผล
ไว้ข้างหลัง
01:54
Now the factความจริง is thoughแม้, for mostมากที่สุด of us,
37
102296
2696
ทีนี้ความจริงนั้นมันยาก สำหรับเราส่วนใหญ่
01:56
mostมากที่สุด scientificวิทยาศาสตร์ claimsการเรียกร้อง are a leapเผ่น of faithความเชื่อ.
38
104992
3134
ข้อกล่าวอ้างทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่
เป็นการกระโจนด้วยศรัทธา
02:00
We can't really judgeผู้พิพากษา scientificวิทยาศาสตร์
claimsการเรียกร้อง for ourselvesตัวเรา in mostมากที่สุด casesกรณี.
39
108126
4385
พวกเราไม่สามารถตัดสินข้อกล่าวอ้าง
ทางวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ได้ด้วยตัวเองจริงๆ
02:04
And indeedจริง this is actuallyแท้จริง
trueจริง for mostมากที่สุด scientistsนักวิทยาศาสตร์ as well
40
112511
2840
และแน่นอน มันจริงเช่นกัน
สำหรับนักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่
02:07
outsideด้านนอก of theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง specialtiesพิเศษ.
41
115351
2330
เมื่อมันเป็นเรื่องที่นอกเหนือความเชี่ยวชาญ
02:09
So if you think about it, a geologistนักธรณีวิทยา can't tell you
42
117681
2520
ดังนั้น ถ้าคุณคิดถึงมัน
นักธรณีวิทยาไม่สามารถบอกคุณได้
02:12
whetherว่า a vaccineวัคซีน is safeปลอดภัย.
43
120201
1750
ว่าวัคซีนปลอดภัยหรือเปล่า
02:13
Mostมากที่สุด chemistsนักเคมี are not expertsผู้เชี่ยวชาญ in evolutionaryวิวัฒนาการ theoryทฤษฎี.
44
121951
3000
นักเคมีส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ
ในทฤษฎีวิวัฒนาการ
02:16
A physicistนักฟิสิกส์ cannotไม่ได้ tell you,
45
124951
2259
นักฟิสิกส์ไม่สามารถบอกคุณได้
02:19
despiteแม้จะมี the claimsการเรียกร้อง of some of them,
46
127210
1443
เว้นเสียแต่ว่าเป็นข้อกล่าวอ้างบางข้อ
02:20
whetherว่า or not tobaccoยาสูบ causesสาเหตุ cancerโรคมะเร็ง.
47
128653
3354
ว่ายาสูบทำให้เกิดมะเร็งหรือเปล่า
02:24
So, if even scientistsนักวิทยาศาสตร์ themselvesตัวเอง
48
132007
2450
ดังนั้น ถ้าแม้แต่นักวิทยาศาสตร์เอง
02:26
have to make a leapเผ่น of faithความเชื่อ
49
134457
1276
ยังจะต้องมีการกระโจนด้วยศรัทธา
02:27
outsideด้านนอก theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง fieldsสาขา,
50
135733
1922
เมื่อออกไปนอกองค์ความรู้ของพวกเขา
02:29
then why do they acceptยอมรับ the
claimsการเรียกร้อง of other scientistsนักวิทยาศาสตร์?
51
137655
3928
แล้วทำไมพวกเขาถึงยอมรับ
ข้อกล่าวอ้างของนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ
02:33
Why do they believe eachแต่ละ other'sอื่น ๆ claimsการเรียกร้อง?
52
141583
2298
ทำไมพวกเขาจึงเชื่อข้อกล่าวอ้างของกันและกัน
02:35
And should we believe those claimsการเรียกร้อง?
53
143881
3290
และเราควรที่จะเชื่อข้อกล่าวอ้างพวกนั้นหรือ
02:39
So what I'd like to argueเถียง is yes, we should,
54
147171
2776
ที่ฉันอยากจะแย้งคือ ใช่ เราควรค่ะ
02:41
but not for the reasonเหตุผล that mostมากที่สุด of us think.
55
149947
2883
แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ว่า
พวกเราส่วนใหญ่คิดอย่างนั้น
02:44
Mostมากที่สุด of us were taughtสอน in schoolโรงเรียน
that the reasonเหตุผล we should
56
152830
2330
พวกเราส่วนใหญ่ถูกสอนมาในโรงเรียน
ว่าเหตุผลที่เราควรเชื่อในวิทยาศาสตร์
02:47
believe in scienceวิทยาศาสตร์ is because of the scientificวิทยาศาสตร์ methodวิธี.
57
155160
3412
ก็เพราะว่าด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
02:50
We were taughtสอน that scientistsนักวิทยาศาสตร์ followปฏิบัติตาม a methodวิธี
58
158572
2916
เราถูกสอนว่า นักวิทยาศาสตร์ทำตามขั้นตอน
02:53
and that this methodวิธี guaranteesการค้ำประกัน
59
161488
2356
และวิธีการนี้รับรอง
02:55
the truthความจริง of theirของพวกเขา claimsการเรียกร้อง.
60
163844
1996
ความจริงให้กับข้อกล่าวอ้างของพวกเขา
02:57
The methodวิธี that mostมากที่สุด of us were taughtสอน in schoolโรงเรียน,
61
165840
3420
วิธีการที่พวกเราส่วนใหญ่
ถูกสอนมาในโรงเรียน
03:01
we can call it the textbookตำราเรียน methodวิธี,
62
169260
1576
พวกเราเรียกมันว่าวิธีการตามตำราก็ได้
03:02
is the hypotheticalน่าสงสัย deductiveนิรนัย methodวิธี.
63
170836
2784
มันเป็นวิธีแบบนิรนัยจากสมมติฐาน
(hypothetical deductive method)
03:05
Accordingตาม to the standardมาตรฐาน
modelแบบ, the textbookตำราเรียน modelแบบ,
64
173620
3094
ตามแบบจำลองมาตรฐาน ตามแบบจำลองตำรา
03:08
scientistsนักวิทยาศาสตร์ developพัฒนา hypothesesสมมติฐาน, they deduceอนุมาน
65
176714
2957
นักวิทยาศาสตร์พัฒนาสมมติฐาน
พวกเขาอนุมาน
03:11
the consequencesผลที่ตามมา of those hypothesesสมมติฐาน,
66
179671
2460
ผลที่จะตามมาของสมมติฐานนั้น
03:14
and then they go out into the worldโลก and they say,
67
182131
1710
และจากนั้นพวกเขาก็ออกไปในโลก
และบอกว่า
03:15
"Okay, well are those consequencesผลที่ตามมา trueจริง?"
68
183841
2374
"เอาล่ะ สิ่งที่เกิดตามมานั้นมันจริงหรือเปล่า"
03:18
Can we observeสังเกต them takingการ
placeสถานที่ in the naturalโดยธรรมชาติ worldโลก?
69
186215
3333
เราทำการสำรวจ
ว่ามันเกิดขึ้นในโลกปกติได้ไหม
03:21
And if they are trueจริง, then the scientistsนักวิทยาศาสตร์ say,
70
189548
2600
และถ้ามันจริง
นักวิทยาศาสตร์ก็จะบอกว่า
03:24
"Great, we know the hypothesisสมมติฐาน is correctแก้ไข."
71
192148
2856
"ยอดเลย เรารู้ว่าสมมติฐานนี้ถูกต้อง"
03:27
So there are manyจำนวนมาก famousมีชื่อเสียง examplesตัวอย่าง in the historyประวัติศาสตร์
72
195004
2179
มีตัวอย่างที่โด่งดังมากมาย
ในประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์
03:29
of scienceวิทยาศาสตร์ of scientistsนักวิทยาศาสตร์ doing exactlyอย่างแน่นอน this.
73
197183
2879
ที่นักวิทยาศาสตร์ทำแบบนี้เป๊ะๆ
03:32
One of the mostมากที่สุด famousมีชื่อเสียง examplesตัวอย่าง
74
200062
2058
หนึ่งในตัวอย่างที่โด่งดังที่สุด
03:34
comesมา from the work of Albertอัลเบิร์ Einsteinไอน์สไต.
75
202120
2213
มาจากผลงานของอัลเบิร์ต ไอสไตน์
03:36
When Einsteinไอน์สไต developedพัฒนา the
theoryทฤษฎี of generalทั่วไป relativityความสัมพันธ์,
76
204333
2522
เมื่อไอสไตน์พัฒนาทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป
03:38
one of the consequencesผลที่ตามมา of his theoryทฤษฎี
77
206855
2316
หนึ่งในผลที่เกิดขึ้นต่อมาจากทฤษฎีของเขา
03:41
was that space-timeพื้นที่เวลา wasn'tก็ไม่ได้ just an emptyว่างเปล่า voidเป็นโมฆะ
78
209171
2839
คืออวกาศ-เวลา ไม่ได้เป็นแค่ห้วงว่างเปล่า
03:44
but that it actuallyแท้จริง had a fabricผ้า.
79
212010
1909
แต่แท้จริงแล้วมันมีโครงสร้าง
03:45
And that that fabricผ้า was bentก้ม
80
213919
1601
และโครงสร้างนั้นก็ถูกดัด
03:47
in the presenceการมี of massiveมาก objectsวัตถุ like the sunดวงอาทิตย์.
81
215520
3380
เมื่อมีวัตถุขนาดยักษ์อย่างดวงอาทิตย์
03:50
So if this theoryทฤษฎี were trueจริง then it meantความหมาย that lightเบา
82
218900
2749
ดังนั้น ถ้าทฤษฎีนี้เป็นจริงแล้ว
มันหมายความว่า
03:53
as it passedผ่าน the sunดวงอาทิตย์
83
221649
1528
เมื่อแสงเดินทางผ่านดวงอาทิตย์
03:55
should actuallyแท้จริง be bentก้ม around it.
84
223177
2168
ควรที่จะถูกดัดให้โค้งไปรอบมัน
03:57
That was a prettyน่ารัก startlingที่ทำให้ตกใจ predictionคาดการณ์
85
225345
2400
มันค่อนข้างจะเป็นการคาดคะเนที่น่าตกใจ
03:59
and it tookเอา a fewน้อย yearsปี before scientistsนักวิทยาศาสตร์
86
227745
1988
และมันก็กินเวลาสองสามปี
ก่อนที่นักวิทยาศาสตร์
04:01
were ableสามารถ to testทดสอบ it
87
229733
1278
จะสามารถที่จะทดสอบมันได้
04:03
but they did testทดสอบ it in 1919,
88
231011
2510
แต่พวกเขาทำการทดสอบในปี 1919
04:05
and loดูเถิด and beholdเห็น it turnedหัน out to be trueจริง.
89
233521
2450
และดูเสียก่อน
กลายเป็นว่ามันเป็นความจริงซะด้วย
04:07
Starlightแสงดาว actuallyแท้จริง does bendโค้ง
as it travelsการเดินทาง around the sunดวงอาทิตย์.
90
235971
3158
แสงดาวถูกดัดให้โค้งจริงๆ
เมื่อมันเดินทางรอบดวงอาทิตย์
04:11
This was a hugeใหญ่ confirmationการยืนยัน of the theoryทฤษฎี.
91
239129
2494
นี่เป็นการยืนยันที่ยิ่งใหญ่ของทฤษฎีนี้
04:13
It was consideredการพิจารณา proofพิสูจน์ of the truthความจริง
92
241623
1805
มันได้รับการพิจารณาว่าเป็นข้อพิสูจน์ความจริง
04:15
of this radicalรุนแรง newใหม่ ideaความคิด,
93
243428
1312
ของความคิดใหม่แสนสุดโต่ง
04:16
and it was writtenเขียน up in manyจำนวนมาก newspapersหนังสือพิมพ์
94
244740
1852
และมันถูกเขียนถึงในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
04:18
around the globeโลก.
95
246592
2538
ทั่วโลก
04:21
Now, sometimesบางครั้ง this theoryทฤษฎี or this modelแบบ
96
249130
2350
ทีนี้ บางครั้งทฤษฎีหรือแบบจำลองนี้
04:23
is referredเรียกว่า to as the deductive-nomologicalนิรนัย-nomological modelแบบ,
97
251480
3434
ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแบบจำลองแบบกฎของการอนุมาน
(deductive-nomological model)
04:26
mainlyส่วนใหญ่ because academicsนักวิชาการ like
to make things complicatedซับซ้อน.
98
254914
3384
โดยหลักแล้ว เพราะทางวิชาการ
ชอบที่จะทำสิ่งที่ซับซ้อน
04:30
But alsoด้วย because in the idealในอุดมคติ caseกรณี, it's about lawsกฎหมาย.
99
258298
5261
แต่มันก็ยังเป็นเพราะในกรณีที่สมบูรณ์
มันเกี่ยวกับกฎเกณฑ์
04:35
So nomologicalnomological meansวิธี havingมี to do with lawsกฎหมาย.
100
263559
2502
คำว่า โนโมโลจิคัล (nomological)
หมายถึง เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์
04:38
And in the idealในอุดมคติ caseกรณี, the hypothesisสมมติฐาน isn't just an ideaความคิด:
101
266061
3424
และในกรณีที่สมบูรณ์ สมมติฐานไม่ได้เป็นแค่ความคิด
04:41
ideallyความนึกคิด, it is a lawกฎหมาย of natureธรรมชาติ.
102
269485
2326
โดยสมบูรณ์แล้ว มันคือกฎแห่งธรรมชาติ
04:43
Why does it matterเรื่อง that it is a lawกฎหมาย of natureธรรมชาติ?
103
271811
2287
ทำไมมันถึงสำคัญ ที่วามันเป็นกฎแห่งธรรมชาติ
04:46
Because if it is a lawกฎหมาย, it can't be brokenแตก.
104
274098
2728
เพราะว่า ถ้ามันเป็นกฎแล้ว
มันก็ไม่สามารถที่จะถูกฝ่าฝืนได้
04:48
If it's a lawกฎหมาย then it will always be trueจริง
105
276826
2108
ถ้ามันเป็นกฎแล้วมันจะเป็นจริงเสมอ
04:50
in all timesครั้ง and all placesสถานที่
106
278934
1244
ในทุกเวลาและทุกสถานที่
04:52
no matterเรื่อง what the circumstancesพฤติการณ์ are.
107
280178
2206
ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
04:54
And all of you know of at leastน้อยที่สุด
one exampleตัวอย่าง of a famousมีชื่อเสียง lawกฎหมาย:
108
282384
3229
และที่คุณทุกคนก็รู้อย่างน้อยหนึ่งตัวอย่าง
ของกฎที่โด่งดัง
04:57
Einstein'sของ Einstein famousมีชื่อเสียง equationสมการ, E=MCMC2,
109
285613
3755
สมการที่โด่งดังของไอสไตน์ E=MC2
05:01
whichที่ tellsบอก us what the relationshipความสัมพันธ์ is
110
289368
1800
ซึ่งบอกเราว่าความสัมพันธ์
05:03
betweenระหว่าง energyพลังงาน and massมวล.
111
291168
2193
ระหว่างพลังงานและมวลคืออะไร
05:05
And that relationshipความสัมพันธ์ is trueจริง no matterเรื่อง what.
112
293361
4000
และความสัมพันธ์นั้นก็จริงไม่ว่าจะอย่างไร
05:09
Now, it turnsผลัดกัน out, thoughแม้, that there
are severalหลาย problemsปัญหาที่เกิดขึ้น with this modelแบบ.
113
297361
3649
ทีนี้ มันกลายเป็นว่า แบบจำลองนี้มีปัญหา
อยู่สองสามอย่าง
05:13
The mainหลัก problemปัญหา is that it's wrongไม่ถูกต้อง.
114
301010
3635
ปัญหาหลักคือมันผิด
05:16
It's just not trueจริง. (Laughterเสียงหัวเราะ)
115
304645
3502
มันก็แค่ไม่จริง (เสียงหัวเราะ)
05:20
And I'm going to talk about
threeสาม reasonsเหตุผล why it's wrongไม่ถูกต้อง.
116
308147
2723
และฉันกำลังที่จะบรรยายเกี่ยวกับอีกสามเหตุผล
ว่าทำไมมันผิด
05:22
So the first reasonเหตุผล is a logicalตรรกะ reasonเหตุผล.
117
310870
2679
เหตุผลแรกคือเหตุผลทางตรรกะ
05:25
It's the problemปัญหา of the fallacyการเข้าใจผิด
of affirmingเห็นพ้อง the consequentเป็นผลลัพธ์.
118
313549
3516
มันเป็นปัญหาแห่งความคิดผิดๆ
เกี่ยวกับการยืนยันผลที่ตามมา
05:29
So that's anotherอื่น fancyแฟนซี, academicวิชาการ way of sayingคำพูด
119
317065
2826
นั่นเป็นอีกหนึ่งความคิดผิดๆ
เป็นการพูดอย่างนักวิชาการ
05:31
that falseเท็จ theoriesทฤษฎี can make trueจริง predictionsการคาดการณ์.
120
319891
2670
ว่าทฤษฎีที่ผิดสามารถให้การคาดเดาที่ถูกได้
05:34
So just because the predictionคาดการณ์ comesมา trueจริง
121
322561
1994
แค่เพียงเพราะการคาดเดาออกมาถูก
05:36
doesn't actuallyแท้จริง logicallyมีเหตุผล
proveพิสูจน์ that the theoryทฤษฎี is correctแก้ไข.
122
324555
3222
ไม่ได้พิสูจน์ด้วยตรรกะจริงๆ ว่าทฤษฎีนั้นถูกต้อง
05:39
And I have a good exampleตัวอย่าง of that too,
again from the historyประวัติศาสตร์ of scienceวิทยาศาสตร์.
123
327777
3931
และฉันมีตัวอย่างด้วยเช่นกัน
อีกครั้ง จากประวัติศาสตร์ของวิทยาศาสตร์
05:43
This is a pictureภาพ of the PtolemaicPtolemaic universeจักรวาล
124
331708
2695
นี่คือรูปภาพของจักรวาลของปโตเลมี
05:46
with the Earthโลก at the centerศูนย์ of the universeจักรวาล
125
334403
1862
ที่มีโลกอยู่ศูนย์กลางจักรวาล
05:48
and the sunดวงอาทิตย์ and the planetsดาวเคราะห์ going around it.
126
336265
2595
และดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์อื่นๆ
โคจรไปรอบๆ มัน
05:50
The PtolemaicPtolemaic modelแบบ was believedเชื่อว่า
127
338860
2030
แบบจำลองแบบปโตเลมีได้รับความเชื่อถือ
05:52
by manyจำนวนมาก very smartฉลาด people for manyจำนวนมาก centuriesมานานหลายศตวรรษ.
128
340890
3253
โดยคนฉลาดมากมาย เป็นเวลาหลายศตวรรษ
05:56
Well, why?
129
344143
1736
เพราะอะไรล่ะ
05:57
Well the answerตอบ is because it madeทำ
lots of predictionsการคาดการณ์ that cameมา trueจริง.
130
345879
3437
คำตอบก็คือ เพราะว่ามันทำการคาดคะเนมากมาย
ที่ผลออกมาเป็นจริง
06:01
The PtolemaicPtolemaic systemระบบ enabledเปิดการใช้งาน astronomersนักดาราศาสตร์
131
349316
2016
ระบบแบบปโตเลมีทำให้นักดาราศาสตร์
06:03
to make accurateถูกต้อง predictionsการคาดการณ์
of the motionsการเคลื่อนไหว of the planetดาวเคราะห์,
132
351332
2750
ทำการคาดคะเนการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์
ได้อย่างแม่นยำ
06:06
in factความจริง more accurateถูกต้อง predictionsการคาดการณ์ at first
133
354082
2519
อันที่จริง ตอนแรกคาดคะเนได้แม่นยำมากกว่า
06:08
than the Copernicanโคเปอร์นิคั theoryทฤษฎี
whichที่ we now would say is trueจริง.
134
356601
4324
ทฤษฎีของโคเปอร์นิคัส ซึ่งตอนนี้เราบอกได้ว่ามันจริง
06:12
So that's one problemปัญหา with the textbookตำราเรียน modelแบบ.
135
360925
2982
นั่นเป็นหนึ่งปัญหาของแบบจำลองตามตำรา
06:15
A secondที่สอง problemปัญหา is a practicalประยุกต์ problemปัญหา,
136
363907
2396
ปัญหาที่สองเป็นปัญหาทางในทางปฏิบัติ
06:18
and it's the problemปัญหา of auxiliaryผู้ช่วย hypothesesสมมติฐาน.
137
366303
3235
และมันเป็นปัญหาของสมมติฐานเสริม
06:21
Auxiliaryผู้ช่วย hypothesesสมมติฐาน are assumptionsสมมติฐาน
138
369538
2829
สมมติฐานเสริมเป็นการสันนิษฐาน
06:24
that scientistsนักวิทยาศาสตร์ are makingการทำ
139
372367
1779
ที่นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างขึ้น
06:26
that they mayอาจ or mayอาจ not even
be awareทราบ that they're makingการทำ.
140
374146
3043
ซึ่งพวกเขาอาจจะหรือไม่ตระหนัก
ว่าพวกเขากระทำ
06:29
So an importantสำคัญ exampleตัวอย่าง of this
141
377189
2661
ตัวอย่างสำคัญของสิ่งนี้
06:31
comesมา from the Copernicanโคเปอร์นิคั modelแบบ,
142
379850
2095
มาจากแบบจำลองโคเปอร์นิคัส
06:33
whichที่ ultimatelyในที่สุด replacedแทนที่ the PtolemaicPtolemaic systemระบบ.
143
381945
3192
ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว มาแทนที่ระบบแบบปโตเลมี
06:37
So when Nicolausนิโค CopernicusCopernicus said,
144
385137
2040
เมื่อนิโคลัส โคเปอร์นิคัส กล่าวว่า
06:39
actuallyแท้จริง the Earthโลก is not the centerศูนย์ of the universeจักรวาล,
145
387177
2650
ที่จริงโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางจักรวาล
06:41
the sunดวงอาทิตย์ is the centerศูนย์ of the solarแสงอาทิตย์ systemระบบ,
146
389827
1918
ดวงอาทิตย์อยู่ศูนย์กลางระบบสุริยจักรวาล
06:43
the Earthโลก movesการเคลื่อนไหว around the sunดวงอาทิตย์.
147
391745
1382
โลกโคจรไปรอบๆ ดวงอาทิตย์
06:45
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ said, well okay, Nicolausนิโค, if that's trueจริง
148
393127
3728
นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เอาล่ะ นิโคลัส ถ้านั่นมันจริง
06:48
we oughtควร to be ableสามารถ to detectตรวจจับ the motionการเคลื่อนไหว
149
396855
1764
เราก็ควรที่จะสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว
06:50
of the Earthโลก around the sunดวงอาทิตย์.
150
398619
1958
ของโลกรอบๆ ด้วยอาทิตย์ได้สิ
06:52
And so this slideสไลด์ here illustratesแสดงให้เห็นถึง a conceptแนวคิด
151
400577
2056
และสไลด์นี้เป็นภาพของแนวคิด
06:54
knownที่รู้จักกัน as stellarเป็นตัวเอก parallaxParallax.
152
402633
1808
ที่เรียกว่า การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาว
(stellar parallax)
06:56
And astronomersนักดาราศาสตร์ said, if the Earthโลก is movingการเคลื่อนย้าย
153
404441
3822
และนักดาราศาสตร์บอกว่า ถ้าโลกกำลังเคลื่อนที่
07:00
and we look at a prominentโดดเด่น starดาว, let's say, Siriusซิเรียส --
154
408263
3200
และเรามองไปยังดาวที่เด่นชัด เช่น ซิริอัส
07:03
well I know I'm in Manhattanแมนฮัตตัน
so you guys can't see the starsดาว,
155
411463
2414
ฉันรู้ว่าฉันอยู่ในแมนฮัตตัน
คุณก็เลยไม่เห็นดาว
07:05
but imagineจินตนาการ you're out in the countryประเทศ,
imagineจินตนาการ you choseเลือก that ruralชนบท life —
156
413877
3731
แต่ลองนึกดูว่าคุณออกไปอยู่ในชนบท
ลองคิดว่าคุณเลือกชีวิตไกลกรุง
07:09
and we look at a starดาว in Decemberธันวาคม, we see that starดาว
157
417608
2867
และเรามองดวงดาวในเดือนธันวาคม
เราเห็นดาวดวงนั้น
07:12
againstต่อต้าน the backdropฉากหลัง of distantไกล starsดาว.
158
420475
2765
บนพื้นหลังที่มีดาวที่ห่างออกไป
07:15
If we now make the sameเหมือนกัน observationการสังเกต sixหก monthsเดือน laterต่อมา
159
423240
2954
ถ้าพวกเราทำการสังเกตหกเดือนหลังจากนี้
07:18
when the Earthโลก has movedย้าย to this positionตำแหน่ง in Juneมิถุนายน,
160
426194
3812
เมื่อโลกได้เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งในเดือนมิถุนายน
07:22
we look at that sameเหมือนกัน starดาว and we
see it againstต่อต้าน a differentต่าง backdropฉากหลัง.
161
430006
4099
เรามองไปยังดาวดวงเดิม และเราเห็นมัน
บนพื้นหลังที่ต่างออกไป
07:26
That differenceข้อแตกต่าง, that angularเชิงมุม
differenceข้อแตกต่าง, is the stellarเป็นตัวเอก parallaxParallax.
162
434105
4182
ความแตกต่างนั้น องศาที่แตกต่างนั้น
คือ การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาว
07:30
So this is a predictionคาดการณ์ that the Copernicanโคเปอร์นิคั modelแบบ makesยี่ห้อ.
163
438287
2863
ดังนั้น การคาดการโดยแบบจำลองโคเปอร์นิคัส
07:33
Astronomersนักดาราศาสตร์ lookedมอง for the stellarเป็นตัวเอก parallaxParallax
164
441150
2561
นักดาราศาสตร์มองหา
การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาว
07:35
and they foundพบ nothing, nothing at all.
165
443711
4982
และพวกเขาไม่พบอะไร ไม่พบอะไรเลย
07:40
And manyจำนวนมาก people arguedที่ถกเถียงกันอยู่ that this provedได้รับการพิสูจน์
that the Copernicanโคเปอร์นิคั modelแบบ was falseเท็จ.
166
448693
3866
และคนมากมายเถียงว่า
นี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ว่าแบบจำลองโคเปอร์นิคัสเป็นเท็จ
07:44
So what happenedที่เกิดขึ้น?
167
452559
1488
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น
07:46
Well, in hindsightย้อนหลัง we can say
that astronomersนักดาราศาสตร์ were makingการทำ
168
454047
2683
เมื่อเราเข้าใจปัญหาหลังจากที่มันเกิดขึ้นแล้ว
เราสามารถบอกได้ว่านักดาราศาสตร์
07:48
two auxiliaryผู้ช่วย hypothesesสมมติฐาน, bothทั้งสอง of whichที่
169
456730
2547
ได้ตั้งสองสมมติฐานเสริม ซึ่งทั้งสองข้อนั้น
07:51
we would now say were incorrectไม่ถูกต้อง.
170
459277
2663
ตอนนี้เราบอกได้ว่ามันไม่ถูก
07:53
The first was an assumptionการสันนิษฐาน
about the sizeขนาด of the Earth'sโลก orbitโคจร.
171
461940
3635
อย่างแรกคือข้อสมมติเกี่ยวกับขนาดของวงโคจรโลก
07:57
Astronomersนักดาราศาสตร์ were assumingทะลึ่ง
that the Earth'sโลก orbitโคจร was largeใหญ่
172
465575
3036
นักดาราศาสตร์เคยคาดไว้ว่าวงโคจรของโลกนั้นใหญ่
08:00
relativeญาติ to the distanceระยะทาง to the starsดาว.
173
468611
2338
เป็นสัดส่วนกับระยะห่างจากดวงดาว
08:02
Todayในวันนี้ we would drawวาด the pictureภาพ more like this,
174
470949
2464
วันนี้เราจะเขียนภาพเป็นแบบนี้มากกว่า
08:05
this comesมา from NASAนาซา,
175
473413
1347
มันมาจากนาซ่า
08:06
and you see the Earth'sโลก orbitโคจร is actuallyแท้จริง quiteทีเดียว smallเล็ก.
176
474760
2423
และคุณเห็นวงโคจรของโลกว่ามันค่อนข้างเล็ก
08:09
In factความจริง, it's actuallyแท้จริง much
smallerที่มีขนาดเล็ก even than shownแสดงให้เห็นว่า here.
177
477183
2991
อันที่จริง มันเล็กกว่าที่แสดงให้เห็นตรงนี้
08:12
The stellarเป็นตัวเอก parallaxParallax thereforeดังนั้น,
178
480174
1539
การเหลื่อมตำแหน่งของดวงดาวนั้น
08:13
is very smallเล็ก and actuallyแท้จริง very hardยาก to detectตรวจจับ.
179
481713
3584
เล็กมากๆ และอันที่จริง ยากที่จะตรวจจับได้
08:17
And that leadsโอกาสในการขาย to the secondที่สอง reasonเหตุผล
180
485297
1974
และนั่นนำไปสู่เหตุผลที่สอง
08:19
why the predictionคาดการณ์ didn't work,
181
487271
1859
ทำไมการคาดคะเนถึงไม่ได้ผล
08:21
because scientistsนักวิทยาศาสตร์ were alsoด้วย assumingทะลึ่ง
182
489130
1915
เพราะว่านักวิทยาศาสตร์ยังเข้าใจว่า
08:23
that the telescopesกล้องโทรทรรศน์ they had were sensitiveรู้สึกไว enoughพอ
183
491045
3010
กล้องโทรทัศน์ที่พวกเขามีนั้นไวพอ
08:26
to detectตรวจจับ the parallaxParallax.
184
494055
1900
ที่จะตรวจจับการเหลื่อมตำแหน่งได้
08:27
And that turnedหัน out not to be trueจริง.
185
495955
2017
และนั่นกลายเป็นว่าไม่เป็นความจริง
08:29
It wasn'tก็ไม่ได้ untilจนกระทั่ง the 19thTH centuryศตวรรษ
186
497972
2534
ไม่จนกระทั่งศตวรรษที่ 19
08:32
that scientistsนักวิทยาศาสตร์ were ableสามารถ to detectตรวจจับ
187
500506
1684
ที่นักวิทยาศาสตร์สามารถที่จะตรวจจับ
08:34
the stellarเป็นตัวเอก parallaxParallax.
188
502190
1536
การเหลื่อมตำแหน่งของดาวได้
08:35
So, there's a thirdที่สาม problemปัญหา as well.
189
503726
2646
ดังนั้น มันมีปัญหาที่สามเช่นกัน
08:38
The thirdที่สาม problemปัญหา is simplyง่ายดาย a factualเป็นความจริง problemปัญหา,
190
506372
2778
ปัญหาที่สามเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริง
08:41
that a lot of scienceวิทยาศาสตร์ doesn't fitพอดี the textbookตำราเรียน modelแบบ.
191
509150
2816
ที่ว่า วิทยาศาสตร์มากมาย
ไม่ได้เป็นไปตามแบบจำลองตำรา
08:43
A lot of scienceวิทยาศาสตร์ isn't deductiveนิรนัย at all,
192
511966
2273
วิทยาศาสตร์มากมายไม่ใช่การนิรนัยเลย
08:46
it's actuallyแท้จริง inductiveนำเข้ามา.
193
514239
1768
มันเป็นการอุปนัย
08:48
And by that we mean that scientistsนักวิทยาศาสตร์ don't necessarilyจำเป็นต้อง
194
516007
2516
และที่เราบอกว่า นักวิทยาศาสตร์
08:50
startเริ่มต้น with theoriesทฤษฎี and hypothesesสมมติฐาน,
195
518523
2231
ไม่จำเป็นจะต้องเริ่มต้นด้วยทฤษฎีและสมมติฐาน
08:52
oftenบ่อยครั้ง they just startเริ่มต้น with observationsข้อสังเกต
196
520754
1869
บ่อยครั้ง พวกเขาเริ่มจากการสังเกต
08:54
of stuffสิ่ง going on in the worldโลก.
197
522623
2409
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
08:57
And the mostมากที่สุด famousมีชื่อเสียง exampleตัวอย่าง
of that is one of the mostมากที่สุด
198
525032
2570
และตัวอย่างที่โด่งดังที่สุดนั้น
08:59
famousมีชื่อเสียง scientistsนักวิทยาศาสตร์ who ever livedอาศัยอยู่, Charlesชาร์ลส์ Darwinดาร์วิน.
199
527602
3065
คืองานจากนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุดที่เคยมี
ชาร์ล ดาวิน
09:02
When Darwinดาร์วิน wentไป out as a youngหนุ่มสาว
man on the voyageการเดินเรือ of the Beagleสายสืบ,
200
530667
3162
เมื่อดาวิน ได้เดินทางไปกับเรือบีเกิลเมื่อยังหนุ่ม
09:05
he didn't have a hypothesisสมมติฐาน, he didn't have a theoryทฤษฎี.
201
533829
3612
เขาไม่ได้มีสมมติฐาน เขาไม่ได้มีทฤษฎี
09:09
He just knewรู้ว่า that he wanted
to have a careerอาชีพ as a scientistนักวิทยาศาสตร์
202
537441
3066
เขาแค่รู้ว่าเขาต้องการจะมีอาชีพ
เป็นนักวิทยาศาสตร์
09:12
and he startedเริ่มต้น to collectเก็บ dataข้อมูล.
203
540507
2012
และเขาก็เริ่มเก็บข้อมูล
09:14
Mainlyส่วนใหญ่ he knewรู้ว่า that he hatedเกลียด medicineยา
204
542519
2730
โดยหลักๆ แล้ว เขารู้ว่าเขาเกลียดการแพทย์
09:17
because the sightสายตา of bloodเลือด madeทำ him sickป่วย so
205
545249
1818
เพราะการเห็นเลือดทำให้เขารู้สึกไม่ดี
09:19
he had to have an alternativeทางเลือก careerอาชีพ pathเส้นทาง.
206
547067
2268
เขาต้องหาอาชีพทางเลือกอื่น
09:21
So he startedเริ่มต้น collectingการจัดเก็บภาษี dataข้อมูล.
207
549335
2134
ดังนั้นเขาจึงเริ่มเก็บข้อมูล
09:23
And he collectedเก็บรวบรวม manyจำนวนมาก things,
includingรวมไปถึง his famousมีชื่อเสียง finchesฟินช์.
208
551469
3166
และเขาเก็บสิ่งต่างๆ มากมาย
รวมทั้งนกฟินช์
09:26
When he collectedเก็บรวบรวม these finchesฟินช์,
he threwโยน them in a bagถุง
209
554635
2210
เมื่อเขาเก็บนกเหล่านี้
เขาโยนมันเข้าไปในถุง
09:28
and he had no ideaความคิด what they meantความหมาย.
210
556845
2340
และเขาไม่รู้เลยว่าเขาได้ทำอะไร
09:31
Manyจำนวนมาก yearsปี laterต่อมา back in Londonกรุงลอนดอน,
211
559185
2287
หลายปีผ่านไปในลอนดอน
09:33
Darwinดาร์วิน lookedมอง at his dataข้อมูล again and beganเริ่ม
212
561472
2233
ดาวินดูข้อมูลของเขาอีกครั้ง
09:35
to developพัฒนา an explanationคำอธิบาย,
213
563705
2448
แล้วเริ่มที่จะพัฒนาคำอธิบาย
09:38
and that explanationคำอธิบาย was the
theoryทฤษฎี of naturalโดยธรรมชาติ selectionการเลือก.
214
566153
3298
และนั่นคำอธิบายนั่นก็คือ
ทฤษฎีของการคัดเลือกโดยธรรมชาติ
09:41
Besidesนอกเหนือจาก inductiveนำเข้ามา scienceวิทยาศาสตร์,
215
569451
2059
นอกเหนือจากวิทยาศาสตร์อุปนัย
09:43
scientistsนักวิทยาศาสตร์ alsoด้วย oftenบ่อยครั้ง participateมีส่วนร่วม in modelingการสร้างแบบจำลอง.
216
571510
2936
นักวิทยาศาสตร์ยังข้องเกี่ยว
กับการสร้างแบบจำลองบ่อยๆ
09:46
One of the things scientistsนักวิทยาศาสตร์ want to do in life
217
574446
2336
สิ่งหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการจะทำในชีวิต
09:48
is to explainอธิบาย the causesสาเหตุ of things.
218
576782
2268
ก็คือได้อธิบายเหตุของสิ่งต่างๆ
09:51
And how do we do that?
219
579050
1518
และเราทำอย่างนั้นได้อย่างไร
09:52
Well, one way you can do it is to buildสร้าง a modelแบบ
220
580568
2252
ทางหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือสร้างแบบจำลอง
09:54
that testsการทดสอบ an ideaความคิด.
221
582820
1742
และทดสองความคิด
09:56
So this is a pictureภาพ of Henryเฮนรี่ CadellCadell,
222
584562
1931
นี่คือภาพของแฮนรี่ คาร์เดล
09:58
who was a Scottishสก็อต geologistนักธรณีวิทยา in the 19thTH centuryศตวรรษ.
223
586493
2866
ผู้ซึ่งเป็นนักธรณีวิทยาชาวสกอตในศตวรรษที่ 19
10:01
You can tell he's Scottishสก็อต because he's wearingการสวมใส่
224
589359
1433
คุณสามารถบอกได้ว่าเขาเป็นชาวสกอต
จากชุดที่เขาใส่
10:02
a deerstalkerdeerstalker capฝาครอบ and Wellingtonเวลลิงตัน bootsรองเท้าบูท.
225
590792
2388
หมวกคนล่ากวางและรองเท้าบูทเวลิงตัน
10:05
(Laughterเสียงหัวเราะ)
226
593180
2154
(เสียงหัวเราะ)
10:07
And CadellCadell wanted to answerตอบ the questionคำถาม,
227
595334
1566
และคาร์เดลต้องการที่จะหาคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า
10:08
how are mountainsภูเขา formedรูปแบบ?
228
596900
1768
ภูเขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
10:10
And one of the things he had observedสังเกต
229
598668
1516
และหนึ่งในสิ่งที่เขาสังเกตเห็น
10:12
is that if you look at mountainsภูเขา
like the AppalachiansAppalachians,
230
600184
2574
คือถ้าคุณดูภูเขา อย่างเทือกเขาแอปพาเลเชีย
(Appalachians)
10:14
you oftenบ่อยครั้ง find that the rocksโขดหิน in them
231
602758
1633
คุณมักพบว่าหินในนั้น
10:16
are foldedพับ,
232
604391
1469
โค้งงอ
10:17
and they're foldedพับ in a particularโดยเฉพาะ way,
233
605860
1646
และพวกมันโค้งงอในแบบจำเพาะ
10:19
whichที่ suggestedข้อเสนอแนะ to him
234
607506
1444
ที่แนะเขาว่า
10:20
that they were actuallyแท้จริง beingกำลัง
compressedการบีบอัด from the sideด้าน.
235
608950
2949
พวกมันถูกบีบอัดจากด้านข้าง
10:23
And this ideaความคิด would laterต่อมา playเล่น a majorสำคัญ roleบทบาท
236
611899
2088
และความคิดนี้ต่อมาได้มีบทบาทที่สำคัญ
10:25
in discussionsการอภิปราย of continentalคอนติเนน driftลอยลำ.
237
613987
2423
ในการอภิปรายในเรื่องการเคลื่อนตัวของทวีป
10:28
So he builtสร้างขึ้น this modelแบบ, this crazyบ้า contraptioncontraption
238
616410
2506
เขาสร้างแบบจำลองนี้ เครื่องมือแสนประหลาด
10:30
with leversคันโยก and woodเนื้อไม้, and here'sนี่คือ his wheelbarrowรถสาลี่,
239
618916
2152
ที่มีคานและไม้ และนี่คือรถเข็นล้อเดียวของเขา
10:33
bucketsบุ้งกี๋, a bigใหญ่ sledgehammerค้อนขนาดใหญ่.
240
621068
2442
ตะกร้า และค้อนยักษ์
10:35
I don't know why he's got the Wellingtonเวลลิงตัน bootsรองเท้าบูท.
241
623510
1898
ฉันไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงใส่บูทเวลลิงตัน
10:37
Maybe it's going to rainฝน.
242
625408
1577
บางทีมันอาจจะกำลังฝนตก
10:38
And he createdสร้าง this physicalกายภาพ modelแบบ in orderใบสั่ง
243
626985
3085
และเขาสร้างแบบจำลองทางกายภาพนี้เพื่อที่จะ
10:42
to demonstrateสาธิต that you could, in factความจริง, createสร้าง
244
630070
3965
แสดงว่า อันที่จริงคุณสามารถสร้าง
10:46
patternsรูปแบบ in rocksโขดหิน, or at leastน้อยที่สุด, in this caseกรณี, in mudโคลน,
245
634035
2674
แบบร่างในหิน หรืออย่างน้อย ในกรณีนี้ ในตม
10:48
that lookedมอง a lot like mountainsภูเขา
246
636709
2226
ที่มองดูเหมือนภูเขา
10:50
if you compressedการบีบอัด them from the sideด้าน.
247
638935
1842
ถ้าคุณอัดมันจากด้านข้าง
10:52
So it was an argumentการโต้เถียง about
the causeสาเหตุ of mountainsภูเขา.
248
640777
3628
มันเป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับสาเหตุการกำเนิดภูเขา
10:56
Nowadaysในปัจจุบันนี้, mostมากที่สุด scientistsนักวิทยาศาสตร์ preferชอบ to work insideภายใน,
249
644405
3048
ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่
ชอบที่จะทำงานจากข้างใน
10:59
so they don't buildสร้าง physicalกายภาพ modelsรุ่น so much
250
647453
2427
ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้สร้างแบบจำลองทางกายภาพ
11:01
as to make computerคอมพิวเตอร์ simulationsการจำลอง.
251
649880
2361
มากเท่ากับการสร้างภาพจำลองคอมพิวเตอร์
11:04
But a computerคอมพิวเตอร์ simulationจำลอง is a kindชนิด of a modelแบบ.
252
652241
2839
แต่ภาพจำลองคอมพิวเตอร์เป็นแบบจำลองอย่างหนึ่ง
11:07
It's a modelแบบ that's madeทำ with mathematicsคณิตศาสตร์,
253
655080
1863
มันเป็นแบบจำลองที่สร้างขึ้นด้วยคณิตศาสตร์
11:08
and like the physicalกายภาพ modelsรุ่น of the 19thTH centuryศตวรรษ,
254
656943
3233
และเหมือนกับแบบจำลองทางกายภาพ
ยุคศตวรรษที่ 19
11:12
it's very importantสำคัญ for thinkingคิด about causesสาเหตุ.
255
660176
3778
มันสำคัญมากสำหรับการคิดถึงสาเหตุ
11:15
So one of the bigใหญ่ questionsคำถาม
to do with climateภูมิอากาศ changeเปลี่ยนแปลง,
256
663954
2615
ดังนั้นหนึ่งในคำถามข้อใหญ่ที่เกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ
11:18
we have tremendousมหึมา amountsจำนวน of evidenceหลักฐาน
257
666569
1803
เรามีหลักฐานมากมาย
11:20
that the Earthโลก is warmingภาวะโลกร้อน up.
258
668372
1880
ที่โลกอุ่นขึ้น
11:22
This slideสไลด์ here, the blackสีดำ lineเส้น showsแสดงให้เห็นว่า
259
670252
2464
สไลด์นี้ เส้นสีดำแสดง
11:24
the measurementsวัด that scientistsนักวิทยาศาสตร์ have takenยึด
260
672716
2120
การวัดที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำ
11:26
for the last 150 yearsปี
261
674836
1963
ในช่วง 150 ปีที่ผ่านมา
11:28
showingการแสดง that the Earth'sโลก temperatureอุณหภูมิ
262
676799
1410
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิของโลก
11:30
has steadilyอย่างมั่นคง increasedเพิ่มขึ้น,
263
678209
1634
เพิ่มขึ้นอย่างคงที่
11:31
and you can see in particularโดยเฉพาะ
that in the last 50 yearsปี
264
679843
2846
และคุณสามารถเห็นได้ว่าใน 50 ปีที่ผ่านมา
11:34
there's been this dramaticน่าทึ่ง increaseเพิ่ม
265
682689
1764
มันมีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก
11:36
of nearlyเกือบ one degreeระดับ centigradeเซนติเกรด,
266
684453
2340
ถึงเกือบหนึ่งองศาเซลเซียส
11:38
or almostเกือบจะ two degreesองศา Fahrenheitฟาเรนไฮต์.
267
686793
2375
หรือเกือบสององศาฟาเรนไฮด์
11:41
So what, thoughแม้, is drivingการขับขี่ that changeเปลี่ยนแปลง?
268
689168
2437
แล้วอะไรล่ะ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้
11:43
How can we know what's causingการก่อให้เกิด
269
691605
2335
เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอะไรที่ทำให้
11:45
the observedสังเกต warmingภาวะโลกร้อน?
270
693940
1516
เกิดอากาศที่อุ่นขึ้นอย่างที่เราเห็น
11:47
Well, scientistsนักวิทยาศาสตร์ can modelแบบ it
271
695456
1714
นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างแบบจำลองของมัน
11:49
usingการใช้ a computerคอมพิวเตอร์ simulationจำลอง.
272
697170
2368
โดยใช้ภาพจำลองคอมพิวเตอร์
11:51
So this diagramแผนภาพ illustratesแสดงให้เห็นถึง a computerคอมพิวเตอร์ simulationจำลอง
273
699538
2792
ภาพนี้แสดงให้เห็นภาพจำลองคอมพิวเตอร์
11:54
that has lookedมอง at all the differentต่าง factorsปัจจัย
274
702330
2121
ที่มองไปยังตัวแปลต่างๆ
11:56
that we know can influenceมีอิทธิพล the Earth'sโลก climateภูมิอากาศ,
275
704451
2605
ที่เรารู้ว่าสามารถส่งผลกระทบต่อภูมิอากาศโลก
11:59
so sulfateเกลือของกรดกำมะถัน particlesอนุภาค from airอากาศ pollutionมลพิษ,
276
707056
2752
อนุภาคซัลเฟตจากมลภาวะทางอากาศ
12:01
volcanicเกี่ยวกับภูเขาไฟ dustฝุ่น from volcanicเกี่ยวกับภูเขาไฟ eruptionsอย่างเฉียบพลัน,
277
709808
2970
ฝุ่นภูเขาไฟจากการระเบิดของภูเขาไฟ
12:04
changesการเปลี่ยนแปลง in solarแสงอาทิตย์ radiationการแผ่รังสี,
278
712778
2234
การเปลี่ยนแปลงของรังสีสุริยะ
12:07
and, of courseหลักสูตร, greenhouseเรือนกระจก gasesก๊าซ.
279
715012
2378
และแน่นอน ก๊าซเรือนกระจก
12:09
And they askedถาม the questionคำถาม,
280
717390
1818
และพวกเขาถามคำถาม
12:11
what setชุด of variablesตัวแปร put into a modelแบบ
281
719208
3696
ว่าตัวแปรชุดไหนที่ใส่เข้ามาในแบบจำลอง
12:14
will reproduceสืบพันธุ์ what we actuallyแท้จริง see in realจริง life?
282
722904
2976
แล้วจะเลียนแบบสิ่งที่เราเห็นในชีวิตจริงได้
12:17
So here is the realจริง life in blackสีดำ.
283
725880
2020
นี่คือชีวิตจริงในสีดำ
12:19
Here'sต่อไปนี้คือ the modelแบบ in this lightเบา grayสีเทา,
284
727900
2280
นี่คือแบบจำลองในสีเทาอ่อน
12:22
and the answerตอบ is
285
730180
1560
และคำตอบก็คือ
12:23
a modelแบบ that includesรวมถึง, it's the answerตอบ E on that SATกกท.,
286
731740
4387
ตัวอย่างที่ประกอบด้วย มันคือคำตอบ E บน SAT นั่น
12:28
all of the aboveข้างบน.
287
736127
2141
ทั้งหมดพวกนั้น
12:30
The only way you can reproduceสืบพันธุ์
288
738268
1506
ทางเดียวที่เราสามารถจะเลียนแบบ
12:31
the observedสังเกต temperatureอุณหภูมิ measurementsวัด
289
739774
1828
การวัดอุณหภูมิที่สังเกตเห็น
12:33
is with all of these things put togetherด้วยกัน,
290
741602
1978
คือด้วยการนำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเข้ามารวมกัน
12:35
includingรวมไปถึง greenhouseเรือนกระจก gasesก๊าซ,
291
743580
2139
รวมไปถึงก๊าซเรือนกระจก
12:37
and in particularโดยเฉพาะ you can see that the increaseเพิ่ม
292
745719
2551
และโดยเฉพาะถ้าคุณเห็นว่าการเพิ่มขึ้น
12:40
in greenhouseเรือนกระจก gasesก๊าซ tracksแทร็ค
293
748270
1884
ของการติดตามก๊าซเรือนกระจก
12:42
this very dramaticน่าทึ่ง increaseเพิ่ม in temperatureอุณหภูมิ
294
750154
2206
การเพิ่มขึ้นอย่างมากมายของอุณหภูมิ
12:44
over the last 50 yearsปี.
295
752360
1480
ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา
12:45
And so this is why climateภูมิอากาศ scientistsนักวิทยาศาสตร์ say
296
753840
2434
และนี่เป็นเหตุที่ทำไมนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ
บอกว่า
12:48
it's not just that we know that
climateภูมิอากาศ changeเปลี่ยนแปลง is happeningสิ่งที่เกิดขึ้น,
297
756274
3108
มันไม่ใช่แค่เรารู้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ
กำลังเกิดขึ้น
12:51
we know that greenhouseเรือนกระจก gasesก๊าซ are a majorสำคัญ partส่วนหนึ่ง
298
759382
2768
เรารู้ว่า ก๊าซเรือนกระจกเป็นส่วนใหญ่
12:54
of the reasonเหตุผล why.
299
762150
2730
ของเหตุผลว่าทำไม
12:56
So now because there all these differentต่าง things
300
764880
2388
ดังนั้น เพราะมันมีสิ่งต่างๆ มากมาย
12:59
that scientistsนักวิทยาศาสตร์ do,
301
767268
1489
ที่นักวิทยาศาสตร์ทำ
13:00
the philosopherนักปรัชญา Paulพอล FeyerabendFeyerabend famouslyชื่อเสียง said,
302
768757
3486
นักปรัชญา พอล ฟีเยอร์เบน
(Paul Feyeraben ) กล่าวไว้ว่า
13:04
"The only principleหลัก in scienceวิทยาศาสตร์
303
772243
1626
"หลักการทางวิทยาศาสตร์เดียว
13:05
that doesn't inhibitยับยั้ง progressความคืบหน้า is: anything goesไป."
304
773869
3979
ที่ไม่ได้หยุดยั้งการพัฒนาคือ: ยังไงก็ได้"
13:09
Now this quotationการอ้าง has oftenบ่อยครั้ง
been takenยึด out of contextบริบท,
305
777848
2616
คำพูดนี้มักถูกอ้างถึงอย่างผิดบริบท
13:12
because FeyerabendFeyerabend was not actuallyแท้จริง sayingคำพูด
306
780464
2118
เพราะฟีเยอร์เบนไม่ได้พูดจริงๆ
13:14
that in scienceวิทยาศาสตร์ anything goesไป.
307
782582
1950
ว่าในวิทยาศาสตร์ จะยังไงก็ได้
13:16
What he was sayingคำพูด was,
308
784532
1344
ที่เขาพูดคือ
13:17
actuallyแท้จริง the fullเต็ม quotationการอ้าง is,
309
785876
2024
จริงๆ ก็คือ
13:19
"If you pressกด me to say
310
787900
2090
"ถ้าคุณต้องให้ผมพูด
13:21
what is the methodวิธี of scienceวิทยาศาสตร์,
311
789990
1646
ว่าอะไรคือวิธีการทางวิทยาศาสตร์
13:23
I would have to say: anything goesไป."
312
791636
3629
ผมต้องบอกว่า ยังไงก็ได้"
13:27
What he was tryingพยายาม to say
313
795265
1078
ที่เขาพยายายามจะพูด
13:28
is that scientistsนักวิทยาศาสตร์ do a lot of differentต่าง things.
314
796343
2567
คือนักวิทยาศาสตร์ทำอะไรมากมาย
13:30
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ are creativeความคิดสร้างสรรค์.
315
798910
2308
นักวิทยาศาสตร์มีความคิดสร้างสรรค์
13:33
But then this pushesผลักดัน the questionคำถาม back:
316
801218
2110
แต่แล้วนี่มันก็ดันปัญหากลับ
13:35
If scientistsนักวิทยาศาสตร์ don't use a singleเดียว methodวิธี,
317
803328
3471
ถ้าวิทยาศาสตร์ไม่ได้ใช้วิธีการเดียว
13:38
then how do they decideตัดสิน
318
806799
1899
แล้วเขาจะตัดสินได้อย่างไร
13:40
what's right and what's wrongไม่ถูกต้อง?
319
808698
1458
ว่าอะไรถูกอะไรผิด
13:42
And who judgesผู้พิพากษา?
320
810156
1894
และใครจะเป็นผู้ตัดสิน
13:44
And the answerตอบ is, scientistsนักวิทยาศาสตร์ judgeผู้พิพากษา,
321
812050
2080
และคำตอบก็คือ นักวิทยาศาสตร์เป็นผู้ตัดสิน
13:46
and they judgeผู้พิพากษา by judgingการตัดสิน evidenceหลักฐาน.
322
814130
2883
และพวกเขาตัดสินโดยตัดสินจากหลักฐาน
13:49
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ collectเก็บ evidenceหลักฐาน in manyจำนวนมาก differentต่าง waysวิธี,
323
817013
3409
นักวิทยาศาสตร์เก็บหลักฐานในวิธีการต่างๆ
13:52
but howeverอย่างไรก็ตาม they collectเก็บ it,
324
820422
1622
แต่อย่างไรก็ดี พวกเขาเก็บมัน
13:54
they have to subjectเรื่อง it to scrutinyการพิจารณา.
325
822044
2577
พวกเขาจะต้องไตร่ตรองมันอย่างถี่ถ้วน
13:56
And this led the sociologistนักสังคมวิทยา Robertโรเบิร์ต Mertonเมอร์ตัน
326
824621
2560
และมันก็นำนักสังคมวิทยา
โรเบิร์ต เมอร์ตัน (Robert Merton)
13:59
to focusโฟกัส on this questionคำถาม of how scientistsนักวิทยาศาสตร์
327
827181
2180
ไปสู่ความสนใจในคำถามว่านักวิทยาศาสตร์
14:01
scrutinizeกลั่นกรอง dataข้อมูล and evidenceหลักฐาน,
328
829361
1679
ไตร่ตรองข้อมูลและหลักฐานอย่างไร
14:03
and he said they do it in a way he calledเรียกว่า
329
831040
2808
และเขาบอกว่า พวกเขาทำมันในแบบที่เขาเรียกว่า
14:05
"organizedจัด skepticismความสงสัย."
330
833848
1919
"กังขาอย่างมีระเบียบ"
14:07
And by that he meantความหมาย it's organizedจัด
331
835767
1884
และนั่นเขาหมายถึงว่ามันเป็นระเบียบ
14:09
because they do it collectivelyรวม,
332
837651
1478
เพราะว่าพวกเขาทำมันเป็นกลุ่ม
14:11
they do it as a groupกลุ่ม,
333
839129
1629
พวกเขาทำมันอย่างเป็นหมวดหมู่
14:12
and skepticismความสงสัย, because they do it from a positionตำแหน่ง
334
840758
2816
และกังขาสงสัย เพราะพวกเขาทำมันจากตำแหน่ง
14:15
of distrustไม่ไว้วางใจ.
335
843574
1454
ของความไม่เชื่อ
14:17
That is to say, the burdenภาระ of proofพิสูจน์
336
845028
1962
มันบอกว่า ภาระของการพิสูจน์
14:18
is on the personคน with a novelนวนิยาย claimข้อเรียกร้อง.
337
846990
2481
อยู่บนคนที่มีข้อถือสิทธิ์ใหม่
14:21
And in this senseความรู้สึก, scienceวิทยาศาสตร์
is intrinsicallyภายใน conservativeอนุรักษนิยม.
338
849471
3143
และในกรณีนี้
วิทยาศาสตร์คือการสำรวจอย่างมีเงื่อนไข
14:24
It's quiteทีเดียว hardยาก to persuadeชักชวน the scientificวิทยาศาสตร์ communityชุมชน
339
852614
2572
มันค่อนข้างยากที่จะคะยั้นยะคอสังคมวิทยาศาสตร์
14:27
to say, "Yes, we know something, this is trueจริง."
340
855186
3711
ให้บอกว่า "ใช่ เรารู้บางอย่าง มันเป็นความจริง"
14:30
So despiteแม้จะมี the popularityความนิยม of the conceptแนวคิด
341
858897
2496
ถึงแม้ว่าแนวคิดของกระบวนทัศน์นั้นเปลี่ยนไป
14:33
of paradigmตัวอย่าง shiftsกะ,
342
861393
1597
จะเป็นที่นิยม
14:34
what we find is that actuallyแท้จริง,
343
862990
1284
สิ่งที่เราพบแท้จริงแล้ว
14:36
really majorสำคัญ changesการเปลี่ยนแปลง in scientificวิทยาศาสตร์ thinkingคิด
344
864274
2785
คือการเปลี่ยนแปลงหลักในการคิดอย่างวิทยาศาสตร์
14:39
are relativelyสัมพัทธ์ rareหายาก in the historyประวัติศาสตร์ of scienceวิทยาศาสตร์.
345
867059
3720
ค่อนข้างหาได้ยากในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์
14:42
So finallyในที่สุด that bringsนำ us to one more ideaความคิด:
346
870779
3563
ดังนั้นในที่สุด นั่นนำเราไปยังอีกหนึ่งแนวคิด
14:46
If scientistsนักวิทยาศาสตร์ judgeผู้พิพากษา evidenceหลักฐาน collectivelyรวม,
347
874342
3708
ถ้าวิทยาศาสตร์ตัดสินหลักฐานโดยรวม
14:50
this has led historiansประวัติศาสตร์ to focusโฟกัส on the questionคำถาม
348
878050
2562
มันได้นำนักประวัติศาสตร์ให้มาจดจ้องกับคำถาม
14:52
of consensusเอกฉันท์,
349
880612
1419
ของมหาชน
14:54
and to say that at the endปลาย of the day,
350
882031
1895
และการบอกว่า ที่สุดแล้วนั้น
14:55
what scienceวิทยาศาสตร์ is,
351
883926
1934
วิทยาศาสตร์คืออะไร
14:57
what scientificวิทยาศาสตร์ knowledgeความรู้ is,
352
885860
1670
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์คืออะไร
14:59
is the consensusเอกฉันท์ of the scientificวิทยาศาสตร์ expertsผู้เชี่ยวชาญ
353
887530
3379
ความเห็นที่เป็นเอกฉันท์
ของผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์
15:02
who throughตลอด this processกระบวนการ of organizedจัด scrutinyการพิจารณา,
354
890909
2154
ผู้ซึ่งใช้กระบวนการการใคร่ครวญอย่างเป็นระเบียบ
15:05
collectiveโดยรวม scrutinyการพิจารณา,
355
893063
2305
การไตร่ตรองครั้งแล้วครั้งเล่า
15:07
have judgedตัดสิน the evidenceหลักฐาน
356
895368
1242
ได้ตัดสินหลักฐาน
15:08
and come to a conclusionข้อสรุป about it,
357
896610
2797
และได้บทสรุปเกี่ยวกับมัน
15:11
eitherทั้ง yeaใช่ or nayเปล่า.
358
899407
2477
ว่าจะเป็นใช่หรือไม่
15:13
So we can think of scientificวิทยาศาสตร์ knowledgeความรู้
359
901884
1724
เราสามารถคิดถึงความรู้ทางวิทยาศาสตร์
15:15
as a consensusเอกฉันท์ of expertsผู้เชี่ยวชาญ.
360
903608
2052
เป็นความใคร่ครวญของผู้เชี่ยวชาญ
15:17
We can alsoด้วย think of scienceวิทยาศาสตร์ as beingกำลัง
361
905660
1772
เรายังสามารถคิดถึงวิทยาศาสตร์
15:19
a kindชนิด of a juryคณะลูกขุน,
362
907432
1578
เป็นดั่งลูกขุน
15:21
exceptยกเว้น it's a very specialพิเศษ kindชนิด of juryคณะลูกขุน.
363
909010
2514
เว้นแต่ว่ามันเป็นลูกขุนชนิดพิเศษ
15:23
It's not a juryคณะลูกขุน of your peersเพื่อนร่วมงาน,
364
911524
2104
มันไม่ใช่ลูกขุนของเพื่อนคุณ
15:25
it's a juryคณะลูกขุน of geeksgeeks.
365
913628
1896
มันเป็นลูกขุนของพวกบ้าวิชา
15:27
It's a juryคณะลูกขุน of menผู้ชาย and womenผู้หญิง with PhPh.D.s,
366
915524
3634
มันเป็นลูกขุนของชายหญิงผู้เป็น ดร.
15:31
and unlikeแตกต่าง a conventionalตามธรรมเนียม juryคณะลูกขุน,
367
919158
2442
และไม่เหมือนกับลูกขุนทั่วไป
15:33
whichที่ has only two choicesตัวเลือก,
368
921600
1690
ซึ่งมีแค่สองตัวเลือก
15:35
guiltyรู้สึกผิด or not guiltyรู้สึกผิด,
369
923290
2685
คือ ผิด หรือ ไม่ผิด
15:37
the scientificวิทยาศาสตร์ juryคณะลูกขุน actuallyแท้จริง has a numberจำนวน of choicesตัวเลือก.
370
925975
3401
ลูกขุนวิทยาศาสตร์มีตัวเลือกมากมาย
15:41
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ can say yes, something'sบางอย่าง trueจริง.
371
929376
2784
นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกว่า ใช่ บางทีมันจริง
15:44
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ can say no, it's falseเท็จ.
372
932160
2580
นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกได้ว่า ไม่ มันผิด
15:46
Or, they can say, well it mightอาจ be trueจริง
373
934740
2540
หรือพวกเขาจะบอกก็ได้ว่า อืม มันอาจจะจริง
15:49
but we need to work more
and collectเก็บ more evidenceหลักฐาน.
374
937280
3044
แต่เราต้องทำการศึกษาอีก
และต้องเก็บหลักฐานเพิ่ม
15:52
Or, they can say it mightอาจ be trueจริง,
375
940324
1616
หรือพวกเขาอาจบอกว่า มันอาจจะจริง
15:53
but we don't know how to answerตอบ the questionคำถาม
376
941940
1700
แต่เราไม่รู้ว่าจะตอบคำถามได้อย่างไร
15:55
and we're going to put it asideกัน
377
943640
1310
และเรากำลังที่จะมองข้ามมันไป
15:56
and maybe we'llดี come back to it laterต่อมา.
378
944950
2923
และบางทีเราอาจกลับมาพูดถึงทีหลัง
15:59
That's what scientistsนักวิทยาศาสตร์ call "intractableดื้อดึง."
379
947873
4002
นั่นเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า "ความดึงดัน"
16:03
But this leadsโอกาสในการขาย us to one finalสุดท้าย problemปัญหา:
380
951875
2606
แต่มันนำเราไปยังปัญหาสุดท้าย
16:06
If scienceวิทยาศาสตร์ is what scientistsนักวิทยาศาสตร์ say it is,
381
954481
2938
ถ้าวิทยาศาสตร์เป็นอย่างที่นักวิทยาศาสตร์บอกแล้ว
16:09
then isn't that just an appealอุทธรณ์ to authorityผู้มีอำนาจ?
382
957419
2541
ไม่ใช่ว่านั่นน่าสนใจสำหรับผู้รู้หรอกหรือ
16:11
And weren'tเขาไม่ได้ we all taughtสอน in schoolโรงเรียน
383
959960
1062
แล้วไม่ใช่ว่าเราทุกคนถูกสอนที่โรงเรียนหรือ
16:13
that the appealอุทธรณ์ to authorityผู้มีอำนาจ is a logicalตรรกะ fallacyการเข้าใจผิด?
384
961022
3227
ว่าการดึงดูดผู้รู้
เป็นการหลอกลวงอย่างมีตรรกะ
16:16
Well, here'sนี่คือ the paradoxบุคคลที่ผิดธรรมดา of modernทันสมัย scienceวิทยาศาสตร์,
385
964249
3032
นี่คือปฏิทรรศน์ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
16:19
the paradoxบุคคลที่ผิดธรรมดา of the conclusionข้อสรุป I think historiansประวัติศาสตร์
386
967281
2272
ปฏิทรรศน์ของบทสรุปที่ฉันคิดว่านักประวัติศาสตร์
16:21
and philosophersนักปรัชญา and sociologistsนักสังคมวิทยา have come to,
387
969553
2601
และนักปรัชญาและนักสังคมวิทยาได้เผชิญ
16:24
that actuallyแท้จริง scienceวิทยาศาสตร์ is the appealอุทธรณ์ to authorityผู้มีอำนาจ,
388
972154
3501
ที่จริงแล้ววิทยาศาสตร์เป็นตัวดึงดูดความสนใจของผู้รู้
16:27
but it's not the authorityผู้มีอำนาจ of the individualรายบุคคล,
389
975655
3776
แต่มันไม่ใช่ผู้รู้ของปัจเจกชน
16:31
no matterเรื่อง how smartฉลาด that individualรายบุคคล is,
390
979431
2399
ไม่ว่าบุคคลนั้นจะฉลาดแค่ไหน
16:33
like Platoเพลโต or Socratesโสกราตีส or Einsteinไอน์สไต.
391
981830
3865
เป็นพลาโต หรือโสเครติส หรือไอสไตน์
16:37
It's the authorityผู้มีอำนาจ of the collectiveโดยรวม communityชุมชน.
392
985695
3114
มันเป็นผู้รู้แห่งสังคมรวม
16:40
You can think of it is a kindชนิด of wisdomความฉลาด of the crowdฝูงชน,
393
988809
2986
คุณอาจคิดถึงมันว่าเป็นความรู้ของกลุ่มคน
16:43
but a very specialพิเศษ kindชนิด of crowdฝูงชน.
394
991795
4126
แต่เป็นกลุ่มคนชนิดพิเศษ
16:47
Scienceวิทยาศาสตร์ does appealอุทธรณ์ to authorityผู้มีอำนาจ,
395
995921
1890
วิทยาศาสตร์เป็นที่สนใจของผู้รู้
16:49
but it's not basedซึ่งเป็นรากฐาน on any individualรายบุคคล,
396
997811
2050
แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคลใด
16:51
no matterเรื่อง how smartฉลาด that individualรายบุคคล mayอาจ be.
397
999861
2586
ไม่ว่าบุคคลนั้นจะฉลาดแค่ไหนก็ตาม
16:54
It's basedซึ่งเป็นรากฐาน on the collectiveโดยรวม wisdomความฉลาด,
398
1002447
1751
มันขึ้นอยู่กับความรู้ที่สั่งสมมา
16:56
the collectiveโดยรวม knowledgeความรู้, the collectiveโดยรวม work,
399
1004198
2642
ศาสตร์สหสาขา และการศึกษาต่อยอด
16:58
of all of the scientistsนักวิทยาศาสตร์ who have workedทำงาน
400
1006840
1898
ของบรรดานักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งได้ศึกษา
17:00
on a particularโดยเฉพาะ problemปัญหา.
401
1008738
2717
ปัญหาเฉพาะมากมาย
17:03
Scientistsนักวิทยาศาสตร์ have a kindชนิด of cultureวัฒนธรรม of collectiveโดยรวม distrustไม่ไว้วางใจ,
402
1011455
2796
นักวิทยาศาสตร์เหมือนมีวัฒนธรรม
การไม่เชื่อแบบสั่งสม
17:06
this "showแสดง me" cultureวัฒนธรรม,
403
1014251
2200
วัฒนธรรม "ไหนล่ะ" ที่ว่านี้
17:08
illustratedที่แสดง by this niceดี womanหญิง here
404
1016451
1950
ถูกแสดงให้เห็นโดยผู้หญิงคนนี้
17:10
showingการแสดง her colleaguesเพื่อนร่วมงาน her evidenceหลักฐาน.
405
1018401
3082
ที่แสดงหลักฐานให้ผู้ร่วมงานเห็น
17:13
Of courseหลักสูตร, these people don't
really look like scientistsนักวิทยาศาสตร์,
406
1021483
1857
แน่ล่ะ คนเหล่านี้ไม่ได้ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์
17:15
because they're much too happyมีความสุข.
407
1023340
1986
เพราะพวกเขาดูร่าเริงเกินไป
17:17
(Laughterเสียงหัวเราะ)
408
1025326
4012
(เสียงหัวเราะ)
17:21
Okay, so that bringsนำ me to my finalสุดท้าย pointจุด.
409
1029338
4322
เอาล่ะ นั่นนำฉันมาถึงเรื่องสุดท้าย
17:25
Mostมากที่สุด of us get up in the morningตอนเช้า.
410
1033660
2648
พวกเราส่วนใหญ่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า
17:28
Mostมากที่สุด of us trustวางใจ our carsรถ.
411
1036308
1410
พวกเราส่วนใหญ่เชื่อใจรถของเรา
17:29
Well, see, now I'm thinkingคิด, I'm in Manhattanแมนฮัตตัน,
412
1037718
1542
ลองมาดูว่าฉันคิดยังไง ฉันอยู่ในแมนฮัตตัน
17:31
this is a badไม่ดี analogyการเปรียบเทียบ,
413
1039260
1298
นี่เป็นการเปรียบเทียบที่แย่มาก
17:32
but mostมากที่สุด Americansชาวอเมริกัน who don't liveมีชีวิต in Manhattanแมนฮัตตัน
414
1040558
2824
แต่ชาวอเมริกันส่วนมากที่ไม่ชอบแมนฮัตตัน
17:35
get up in the morningตอนเช้า and get in theirของพวกเขา carsรถ
415
1043382
1738
ตื่นขึ้นมาตอนเช้าและขึ้นรถ
17:37
and turnกลับ on that ignitionการเผาไหม้, and theirของพวกเขา carsรถ work,
416
1045120
2529
และทำการสตาร์ทรถ และรถก็ทำงานได้
17:39
and they work incrediblyเหลือเชื่อ well.
417
1047649
2001
และพวกมันก็ทำงานดีซะด้วย
17:41
The modernทันสมัย automobileรถยนต์ hardlyแทบจะไม่ ever breaksแบ่ง down.
418
1049650
2715
รถยนต์สมัยใหม่แทบจะไม่เคยพังเลย
17:44
So why is that? Why do carsรถ work so well?
419
1052365
2783
แล้วทำไมล่ะ ทำไมรถถึงทำงานดีนัก
17:47
It's not because of the geniusอัจฉริยภาพ of Henryเฮนรี่ Fordลุย
420
1055148
2504
ไม่ใช่ว่ามันเป็นเพราะอัฉริยะ เฮนรี ฟอร์ด
17:49
or Karlคาร์ล Benzเบนซ์ or even ElonElon Muskชะมด.
421
1057652
3091
หรือ คาร์ล เบนซ์ หรือ อีลอน มัสค์
17:52
It's because the modernทันสมัย automobileรถยนต์
422
1060743
2142
มันเป็นเพราะรถสมัยใหม่
17:54
is the productสินค้า of more than 100 yearsปี of work
423
1062885
5034
เป็นผลผลิตของการศึกษามากกว่าร้อยปี
17:59
by hundredsหลายร้อย and thousandsพัน
424
1067919
1590
โดยคนมากมาย
18:01
and tensนับ of thousandsพัน of people.
425
1069509
1336
นับร้อยนับพันคน
18:02
The modernทันสมัย automobileรถยนต์ is the productสินค้า
426
1070845
2111
รถยนต์รุ่นใหม่ๆ
18:04
of the collectedเก็บรวบรวม work and wisdomความฉลาด and experienceประสบการณ์
427
1072956
2789
จากการศึกษาที่สั่งสม ความรู้ และประสบการณ์
18:07
of everyทุกๆ man and womanหญิง who has ever workedทำงาน
428
1075745
2347
ของบุรุษและสตรีผู้ซึ่งได้ทำการศึกษา
18:10
on a carรถ,
429
1078092
1608
เกี่ยวกับรถยนต์
18:11
and the reliabilityความเชื่อถือได้ of the technologyเทคโนโลยี is the resultผล
430
1079700
2915
และความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีคือผลลัพธ์
18:14
of that accumulatedสะสม effortความพยายาม.
431
1082615
2683
ของความพยายามที่สะสมมา
18:17
We benefitประโยชน์ not just from the geniusอัจฉริยภาพ of Benzเบนซ์
432
1085298
2857
เราได้รับประโยขน์ ไม่ใช่แค่จากอัฉริยะอย่างเบนซ์
18:20
and Fordลุย and Muskชะมด
433
1088155
1066
หรือฟอร์ด หรือ มัสค์
18:21
but from the collectiveโดยรวม intelligenceสติปัญญา and hardยาก work
434
1089221
2768
แต่เป็นจากสติปัญญา
และการทำงานอย่างจริงจังที่สั่งสมมา
18:23
of all of the people who have workedทำงาน
435
1091989
2251
ของทุกคนที่ได้ทำงาน
18:26
on the modernทันสมัย carรถ.
436
1094240
1670
เกี่ยวกับรถสมัยใหม่
18:27
And the sameเหมือนกัน is trueจริง of scienceวิทยาศาสตร์,
437
1095910
2050
และมันก็เป็นจริงเช่นเดียวกันในวิทยาศาสตร์
18:29
only scienceวิทยาศาสตร์ is even olderเก่ากว่า.
438
1097960
2844
เพียงแต่วิทยาศาสตร์นั้นแก่กว่าเสียอีก
18:32
Our basisรากฐาน for trustวางใจ in scienceวิทยาศาสตร์ is actuallyแท้จริง the sameเหมือนกัน
439
1100804
2574
พื้นฐานความเชื่อของเราในวิทยาศาสตร์นั้น
แท้จริงแล้วเหมือนกันกับ
18:35
as our basisรากฐาน in trustวางใจ in technologyเทคโนโลยี,
440
1103378
2674
พื้นฐานความเชื่อของเราที่มีต่อเทคโนโลยี
18:38
and the sameเหมือนกัน as our basisรากฐาน for trustวางใจ in anything,
441
1106052
3987
และเหมือนกันกับพื้นฐานความเชื่อในทุกสิ่ง
18:42
namelyคือ, experienceประสบการณ์.
442
1110039
2278
เป็นต้นว่า ประสบการณ์
18:44
But it shouldn'tไม่ควร be blindตาบอด trustวางใจ
443
1112317
1844
แต่มันมิอาจเป็นความเชื่ออย่างมืดบอด
18:46
any more than we would have blindตาบอด trustวางใจ in anything.
444
1114161
2760
มากไปกว่าที่เราเชื่อสิ่งอื่นๆ อย่างหน้ามืดตามัว
18:48
Our trustวางใจ in scienceวิทยาศาสตร์, like scienceวิทยาศาสตร์ itselfตัวเอง,
445
1116921
2841
ความเชื่อของเราที่มีต่อวิทยาศาสตร์
เช่นตัววิทยาศาสตร์เอง
18:51
should be basedซึ่งเป็นรากฐาน on evidenceหลักฐาน,
446
1119762
1913
ควรที่จะตั้งอยู่บนหลักฐาน
18:53
and that meansวิธี that scientistsนักวิทยาศาสตร์
447
1121675
1502
และนั่นหมายความว่านักวิทยาศาสตร์
18:55
have to becomeกลายเป็น better communicatorsสื่อสาร.
448
1123177
2048
จะต้องกลายเป็นนักสื่อสารที่ดีขึ้น
18:57
They have to explainอธิบาย to us not just what they know
449
1125225
2887
พวกเขาจะต้องอธิบายให้เราฟัง
ไม่ใช่แค่ในสิ่งที่เขาเข้าใจ
19:00
but how they know it,
450
1128112
1728
แต่ต้องอธิบายว่าพวกเขาเข้าใจอย่างไรด้วย
19:01
and it meansวิธี that we have
to becomeกลายเป็น better listenersฟัง.
451
1129840
3890
และนั่นหมายความว่าพวกเขา
จะต้องเป็นผู้ฟังที่ดี
19:05
Thank you very much.
452
1133730
1419
ขอบคุณมากๆ ค่ะ
19:07
(Applauseการปรบมือ)
453
1135149
2303
(เสียงปรบมือ)
Translated by Kelwalin Dhanasarnsombut
Reviewed by Jaa Yimhin

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Naomi Oreskes - Historian of science
Naomi Oreskes is a historian of science who uses reason to fight climate change denial.

Why you should listen

Noami Oreskes is a professor of the History of Science and an affiliated professor of Earth and Planetary Sciences at Harvard University. She received her PhD at Stanford in 1990 in the Graduate Special Program in Geological Research and History of Science.

In her 2004 paper published in Science, "Beyond the Ivory Tower: The Scientific Consensus on Climate Change,” Oreskes analyzed nearly 1,000 scientific journals to directly assess the magnitude of scientific consensus around anthropogenic climate change. The paper was famously cited by Al Gore in his film An Inconvenient Truth and led Oreskes to testify in front of the U.S. Senate Committee on Environment and Public Works.

Oreskes is the co-author of the 2010 book Merchants of Doubt, which looks at how the tobacco industry attempted to cast doubt on the link between smoking and lung cancer, and the 2014 book The Collapse of Western Civilization: A View from the Future, which looks back at the present from the year 2093. Both are written with Erik M. Conway.

More profile about the speaker
Naomi Oreskes | Speaker | TED.com