ABOUT THE SPEAKER
Siddhartha Mukherjee - Cancer physician and writer
When he’s not ferreting out the links between stem cells and malignant blood disease, Siddhartha Mukherjee writes and lectures on the history (and future) of medicine.

Why you should listen

While discussing a diagnosis with a patient, Siddhartha Mukherjee realized that there were no easy answers to the question, “What is cancer?” Faced with his hesitation, Mukherjee decided to do something about it.

Over the next six years, Mukherjee wrote the influential, Pulitzer-winning The Emperor of All Maladies, a 4,000-year “biography” of cancer. He collaborated with Ken Burns on a six-hour documentary for PBS based on his book, updating the story with recent discoveries in oncology.

In his new TED Book, The Laws of Medicine, he examines the three principles that govern modern medicine -- and every profession that confronts uncertainty and wonder.

More profile about the speaker
Siddhartha Mukherjee | Speaker | TED.com
TED2015

Siddhartha Mukherjee: Soon we'll cure diseases with a cell, not a pill

Siddhartha Mukherjee (สิทธัตถะ มุกเคอร์จี): อีกไม่นาน เราจะรักษาโรคด้วยเซลล์ ไม่ใช่ด้วยยา

Filmed:
1,558,042 views

การรักษาทางการแพทย์ในปัจจุบันสามารถสรุปได้ในหกคำ คือ เป็นโรค กินยา ฆ่ามัน แต่แพทย์อย่าง สิทธัตถะ มุกเคอร์จี ชี้ทางแห่งอนาคตของวงการแพทย์ที่จะเปลี่ยนวิธีการรักษาของเรา
- Cancer physician and writer
When he’s not ferreting out the links between stem cells and malignant blood disease, Siddhartha Mukherjee writes and lectures on the history (and future) of medicine. Full bio

Double-click the English transcript below to play the video.

00:12
I want to talk to you
about the futureอนาคต of medicineยา.
0
760
4176
ผมอยากจะพูดกับคุณ
เกี่ยวกับอนาคตของวงการแพทย์
00:16
But before I do that, I want to talk
a little bitบิต about the pastอดีต.
1
4960
4096
แต่ก่อนที่ผมจะทำอย่างนั้น
ผมอยากจะพูดถึงอดีตนิดหน่อย
00:21
Now, throughoutตลอด much
of the recentเมื่อเร็ว ๆ นี้ historyประวัติศาสตร์ of medicineยา,
2
9080
3616
ตลอดประวัติศาสตร์ทางการแพทย์
จนถึงเมื่อไม่นานมานี้
00:24
we'veเราได้ thought about illnessเจ็บป่วย and treatmentการรักษา
3
12720
3816
เรามีแนวคิดเกี่ยวกับความเจ็บป่วย
และการรักษา
00:28
in termsเงื่อนไข of a profoundlyอย่างสุดซึ้ง simpleง่าย modelแบบ.
4
16560
3376
ในรูปแบบที่ค่อนข้างเรียบง่ายชัดเจน
00:31
In factความจริง, the modelแบบ is so simpleง่าย
5
19960
2696
อันที่จริง รูปแบบนั้นมันก็เรียบง่ายจริง ๆ
00:34
that you could summarizeสรุป it in sixหก wordsคำ:
6
22680
3056
จนคุณสามารถสรุปมันได้ในเพียงหกคำ
00:37
have diseaseโรค, take pillยา, killฆ่า something.
7
25760
4080
เป็นโรค กินยา ฆ่ามัน
00:43
Now, the reasonเหตุผล
for the dominanceการปกครอง of this modelแบบ
8
31080
4736
ครับ เหตุผลที่รูปแบบนั้นเป็นที่นิยม
00:47
is of courseหลักสูตร the antibioticยาปฏิชีวนะ revolutionการปฏิวัติ.
9
35840
2616
ก็เพราะการปฏิวัติทางยาปฏิชีวนะ
00:50
Manyจำนวนมาก of you mightอาจ not know this,
but we happenเกิดขึ้น to be celebratingฉลอง
10
38480
3176
พวกคุณหลายคนคงจะไม่รู้
แต่เราได้ผลบุญ
00:53
the hundredthที่ร้อย yearปี of the introductionบทนำ
of antibioticsยาปฏิชีวนะ into the Unitedปึกแผ่น Statesสหรัฐอเมริกา.
11
41680
4056
ของการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นปีที่หนึ่งร้อย
ในสหรัฐอเมริกา
00:57
But what you do know
12
45760
1616
แต่สิ่งที่คุณรู้ก็คือ
00:59
is that that introductionบทนำ
was nothing shortสั้น of transformativeกระแส.
13
47400
4240
การนำมันมาใช้นั้น
เป็นเหมือนช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลง
01:04
Here you had a chemicalสารเคมี,
eitherทั้ง from the naturalโดยธรรมชาติ worldโลก
14
52880
3856
คุณมีสารเคมี
ไม่ว่ามันจะมาจากธรรมชาติ
01:08
or artificiallyดุ้งดิ้ง synthesizedสังเคราะห์
in the laboratoryห้องปฏิบัติการ,
15
56760
2736
หรือจากการสังเคราะห์ในห้องทดลอง
01:11
and it would courseหลักสูตร throughตลอด your bodyร่างกาย,
16
59520
3256
และมันจะกระจายไปทั่วร่างกายของคุณ
01:14
it would find its targetเป้า,
17
62800
2776
และไปหาเป้าหมายของมัน
01:17
lockล็อค into its targetเป้า --
18
65600
1656
เข้าจับกับเป้าหมาย --
01:19
a microbeเชื้อจุลินทรีย์ or some partส่วนหนึ่ง of a microbeเชื้อจุลินทรีย์ --
19
67280
2216
ซึ่งเป็นจุลชีพ
หรือส่วนหนึ่งของจุลชีพ --
01:21
and then turnกลับ off a lockล็อค and a keyสำคัญ
20
69520
3440
และจากนั้นก็ปิดกั้น
แม่กุญแจและลูกกุญแจ
01:25
with exquisiteประณีต deftnessความชำนาญ,
exquisiteประณีต specificityความจำเพาะ.
21
73960
3536
ด้วยความคล่องแคล่ว
และจำเพาะเจาะจงอย่างยิ่ง
01:29
And you would endปลาย up takingการ
a previouslyก่อนหน้านี้ fatalร้ายแรง, lethalร้ายแรง diseaseโรค --
22
77520
4296
และคุณอาจติดโรคร้ายแรง
อะไรสักอย่างมาก่อนหน้านี้
01:33
a pneumoniaโรคปอดบวม, syphilisซิฟิลิส, tuberculosisวัณโรค --
23
81840
3136
เช่น ปอดบวม ซิฟิลิส วัณโรค --
01:37
and transformingการเปลี่ยนแปลง that
into a curableรักษาได้, or treatableเยียวยา illnessเจ็บป่วย.
24
85000
4040
และการเปลี่ยนมันให้กลายเป็น
ความเจ็บป่วยที่รักษาและบำบัดได้
01:42
You have a pneumoniaโรคปอดบวม,
25
90080
1480
คุณมีเชื้อปอดบวม
01:44
you take penicillinยาปฏิชีวนะ,
26
92480
1376
คุณกินเพนิซิลิน
01:45
you killฆ่า the microbeเชื้อจุลินทรีย์
27
93880
1536
คุณฆ่าจุลชีพ
01:47
and you cureรักษา the diseaseโรค.
28
95440
2136
และคุณก็หายจากโรค
01:49
So seductiveมีเสน่ห์ was this ideaความคิด,
29
97600
2936
แนวคิดที่น่าดึงดูด
01:52
so potentมีพลัง the metaphorคำอุปมา of lockล็อค and keyสำคัญ
30
100560
4176
ศักยภาพที่เทียบได้กับ
แม่กุญแจกับลูกกุญแจ
01:56
and killingที่ฆ่า something,
31
104760
1536
และการฆ่าอะไรสักอย่าง
01:58
that it really sweptกวาด throughตลอด biologyชีววิทยา.
32
106320
2016
มันแพร่กระจายไปทั่ววงการชีววิทยา
02:00
It was a transformationการแปลง like no other.
33
108360
2120
มันเป็นการเปลี่ยนแปลง
อย่างที่ไม่มีอะไรเหมือน
02:04
And we'veเราได้ really spentการใช้จ่าย the last 100 yearsปี
34
112160
3176
และเราก็ใช้เวลา 100 ปีที่ผ่านมา
02:07
tryingพยายาม to replicateทำซ้ำ that modelแบบ
over and over again
35
115360
3456
ในการพยายามทำตามแบบแผนนั้น
ครั้งแล้วครั้งเล่า
02:10
in noninfectiousnoninfectious diseasesโรค,
36
118840
1239
กับโรคที่ไม่ใช่โรคติดต่อ
02:12
in chronicเรื้อรัง diseasesโรค like diabetesโรคเบาหวาน
and hypertensionความดันเลือดสูง and heartหัวใจ diseaseโรค.
37
120103
4120
ในโรคเรื้อรัง อย่างเช่น เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
02:17
And it's workedทำงาน,
but it's only workedทำงาน partlyเป็นบางส่วน.
38
125120
3639
และมันก็ได้ผล
แต่มันได้ผลแค่บางส่วน
02:21
Let me showแสดง you.
39
129120
1656
ให้ผมแสดงให้คุณดูนะครับ
02:22
You know, if you take the entireทั้งหมด universeจักรวาล
40
130800
2896
ครับ ถ้าคุณพิจารณาองค์รวมทั้งหมด
02:25
of all chemicalสารเคมี reactionsปฏิกิริยา
in the humanเป็นมนุษย์ bodyร่างกาย,
41
133720
3496
ของปฏิกิริยาเคมีทั้งหมดในร่างกายมนุษย์
02:29
everyทุกๆ chemicalสารเคมี reactionปฏิกิริยา
that your bodyร่างกาย is capableสามารถ of,
42
137240
3296
ทุก ๆ ปฏิกิริยาเคมี
ที่ร่างกายของคุณจะทำได้
02:32
mostมากที่สุด people think that that numberจำนวน
is on the orderใบสั่ง of a millionล้าน.
43
140560
3016
คนส่วนใหญ่คิดว่ามันมีจำนวนเป็นล้าน
02:35
Let's call it a millionล้าน.
44
143600
1296
เอาเป็นว่ามีประมาณล้านหนึ่งก็แล้วกัน
02:36
And now you askถาม the questionคำถาม,
45
144920
1696
และคุณก็ตั้งคำถามว่า
02:38
what numberจำนวน or fractionเศษ of reactionsปฏิกิริยา
46
146640
2656
มีส่วนปฏิกิริยาจำนวนเท่าไร
02:41
can actuallyแท้จริง be targetedเป้าหมาย
47
149320
1816
ที่จะสามารถใช้เป็นเป้าหมาย
02:43
by the entireทั้งหมด pharmacopoeiaตำรับยา,
all of medicinalเป็นยา chemistryเคมี?
48
151160
4816
ของเภสัชภัณฑ์ทั้งหลาย
ซึ่งก็คือสารเคมีทางการแพทย์ทั้งหมด
02:48
That numberจำนวน is 250.
49
156000
2040
จำนวนนั้นก็คือ 250
02:51
The restส่วนที่เหลือ is chemicalสารเคมี darknessความมืด.
50
159680
2536
ที่เหลือคือสารเคมีที่เราไม่รู้จัก
02:54
In other wordsคำ, 0.025 percentเปอร์เซ็นต์
of all chemicalสารเคมี reactionsปฏิกิริยา in your bodyร่างกาย
51
162240
6176
หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ 0.025 เปอร์เซ็นต์
ของปฏิกิริยาเคมีทั้งหมดในร่างกาย
03:00
are actuallyแท้จริง targetableกำหนดเป้าหมาย
by this lockล็อค and keyสำคัญ mechanismกลไก.
52
168440
4120
อันที่จริงแล้วสามารถเป็นเป้าหมาย
ของกลไกแม่กุญแจและลูกกุญแจได้
03:05
You know, if you think
about humanเป็นมนุษย์ physiologyสรีรวิทยา
53
173680
3056
ครับ ถ้าคุณคิดว่าสรีรวิทยาของมนุษย์
03:08
as a vastกว้างใหญ่ globalทั่วโลก telephoneโทรศัพท์ networkเครือข่าย
54
176760
3456
เป็นดั่งเครือข่ายโทรศัพท์ระหว่างประเทศ
03:12
with interactingการมีปฏิสัมพันธ์ nodesโหนด
and interactingการมีปฏิสัมพันธ์ piecesชิ้น,
55
180240
3880
ที่มีจุดที่มีปฏิสัมพันธ์กัน
และส่วนที่มีปฏิสัมพันธ์กัน
03:16
then all of our medicinalเป็นยา chemistryเคมี
56
184600
3176
จากนั้นสารเคมีทางการแพทย์ของเราทั้งหมด
03:19
is operatingการดำเนินงาน on one tinyขนาดเล็ก cornerมุม
57
187800
2256
ก็จัดการในส่วนมุมเล็ก ๆ
03:22
at the edgeขอบ, the outerด้านนอก edgeขอบ,
of that networkเครือข่าย.
58
190080
2696
ที่ขอบ ที่ส่วนนอกของเครือข่ายนั้น
03:24
It's like all of our
pharmaceuticalยา chemistryเคมี
59
192800
3816
มันเหมือนกับว่า
สารเคมีทางเภสัชกรรมของเราทั้งหมด
03:28
is a poleเสา operatorผู้ประกอบการ in Wichitaวิชิตา, Kansasแคนซัส
60
196640
3776
เป็นเหมือนเจ้าหน้าที่ชุมสาย
ใน วิชิตา แคนซัส
03:32
who is tinkeringtinkering with about
10 or 15 telephoneโทรศัพท์ linesเส้น.
61
200440
2960
ที่ง่วนอยู่กับโทรศัพท์ 10 หรือ 15 สาย
03:36
So what do we do about this ideaความคิด?
62
204880
2160
แล้วเราจะทำอย่างไรกับแนวคิดนี้ล่ะ
03:40
What if we reorganizedการปรับโครงสร้างองค์กร this approachเข้าใกล้?
63
208160
2360
จะเป็นอย่างไร ถ้าเราสามารถจัดระเบียบ
วิธีการนี้ใหม่ได้
03:44
In factความจริง, it turnsผลัดกัน out
that the naturalโดยธรรมชาติ worldโลก
64
212080
3376
อันที่จริง มันกลายเป็นว่า ธรรมชาติ
03:47
givesจะช่วยให้ us a senseความรู้สึก of how one
mightอาจ think about illnessเจ็บป่วย
65
215480
5056
ได้ให้แนวคิดว่าเราจะรู้สึก
ต่อความเจ็บป่วยอย่างไร
03:52
in a radicallyอย่างรุนแรง differentต่าง way,
66
220560
1656
ในทางที่แตกต่างกันไป
03:54
ratherค่อนข้าง than diseaseโรค, medicineยา, targetเป้า.
67
222240
3720
แทนที่จะเป็นเรื่องของโรค
ยา และเป้าหมาย
03:59
In factความจริง, the naturalโดยธรรมชาติ worldโลก
is organizedจัด hierarchicallyลำดับชั้น upwardsสูงกว่า,
68
227080
3376
อันที่จริง ธรรมชาติถูกจัดระเบียบ
ตามลำดับจากด้านล่างสู่ด้านบน
04:02
not downwardsลงต่ำ, but upwardsสูงกว่า,
69
230480
1856
ไม่ใช่จากด้านบนลงมา
04:04
and we beginเริ่ม with a self-regulatingบังคับตนเอง,
semi-autonomousกึ่งอิสระ unitหน่วย calledเรียกว่า a cellเซลล์.
70
232360
6240
และเราเริ่มต้นจากหน่วยที่ทำงานด้วยตัวเอง
แบบกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งเรียกว่า เซลล์
04:11
These self-regulatingบังคับตนเอง,
semi-autonomousกึ่งอิสระ unitsหน่วย
71
239640
3216
หน่วยที่ทำงานด้วยตัวเอง
แบบกึ่งอัตโนมัตินี้
04:14
give riseลุกขึ้น to self-regulatingบังคับตนเอง,
semi-autonomousกึ่งอิสระ unitsหน่วย calledเรียกว่า organsอวัยวะ,
72
242880
4816
ก่อกำเนิดเป็นหน่วยที่ทำงานด้วยตัวเอง
แบบกึ่งอัตโนมัติ ซึ่งเรียกว่า อวัยวะ
04:19
and these organsอวัยวะ coalesceเชื่อมต่อกัน
to formฟอร์ม things calledเรียกว่า humansมนุษย์,
73
247720
3000
และอวัยวะเหล่านี้รวมตัวกัน
เพื่อก่อกำเนิดเป็นสิ่งที่เรียกว่า มนุษย์
04:23
and these organismsสิ่งมีชีวิต
ultimatelyในที่สุด liveมีชีวิต in environmentsสภาพแวดล้อม,
74
251920
3896
และสิ่งมีชีวิตเหล่านี้
สุดท้ายแล้ว ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อม
04:27
whichที่ are partlyเป็นบางส่วน self-regulatingบังคับตนเอง
and partlyเป็นบางส่วน semi-autonomousกึ่งอิสระ.
75
255840
3600
ซึ่งส่วนหนึ่งทำงานด้วยตัวเอง
และส่วนหนึ่งเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ
04:32
What's niceดี about this schemeโครงการ,
this hierarchicalลำดับชั้น schemeโครงการ
76
260920
2816
แผนภาพที่มีการลดหลั่นเป็นลำดับนี้
มันเจ๋งตรงที่
04:35
buildingอาคาร upwardsสูงกว่า ratherค่อนข้าง than downwardsลงต่ำ,
77
263760
2696
มันถูกสร้างขึ้นมาจากด้านล่าง
แทนที่จะเป็นการสร้างมาจากด้านบน
04:38
is that it allowsช่วยให้ us
to think about illnessเจ็บป่วย as well
78
266480
3376
มันทำให้เราสามารถคิดถึง
เรื่องความเจ็บป่วย
04:41
in a somewhatค่อนข้าง differentต่าง way.
79
269880
1334
ในแบบที่แตกต่างออกไปได้
04:44
Take a diseaseโรค like cancerโรคมะเร็ง.
80
272400
2120
ลองพิจารณาดูโรค อย่างเช่น มะเร็ง
04:48
Sinceตั้งแต่ the 1950s,
81
276120
1296
ตั้งแต่ยุค 1950
04:49
we'veเราได้ triedพยายาม ratherค่อนข้าง desperatelyหมดท่า to applyใช้
this lockล็อค and keyสำคัญ modelแบบ to cancerโรคมะเร็ง.
82
277440
5527
เราพยายามง่วนอยู่กับการหารูปแบบ
แม่กุญแจและลูกกุญแจให้กับมะเร็ง
04:54
We'veเราได้ triedพยายาม to killฆ่า cellsเซลล์
83
282991
2889
เราพยายามที่จะฆ่าเซลล์
04:57
usingการใช้ a varietyความหลากหลาย of chemotherapiesรักษาด้วยเคมีบำบัด
or targetedเป้าหมาย therapiesการบำบัดรักษา,
84
285905
4347
โดยใช้เคมีบำบัดมากมาย
หรือการบำบัดแบบกำหนดเป้าหมาย
05:02
and as mostมากที่สุด of us know, that's workedทำงาน.
85
290276
2420
และอย่างที่เรารู้ ๆ กัน
มันได้ผล
05:04
It's workedทำงาน for diseasesโรค like leukemiaโรคมะเร็งในโลหิต.
86
292720
1858
มันได้ผลสำหรับโรคอย่าง มะเร็งเม็ดเลือดขาว
05:06
It's workedทำงาน for some formsรูปแบบ
of breastเต้านม cancerโรคมะเร็ง,
87
294602
2374
มันได้ผลกับบางรูปแบบ
ของมะเร็งเต้านม
05:09
but eventuallyในที่สุด you runวิ่ง
to the ceilingเพดาน of that approachเข้าใกล้.
88
297000
3736
แต่สุดท้ายแล้ว คุณก็ไปถึงจุดสูงสุด
ของวิธีการนั้น
05:12
And it's only in the last 10 yearsปี or so
89
300760
2496
และเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง
05:15
that we'veเราได้ begunเริ่ม to think
about usingการใช้ the immuneภูมิคุ้มกัน systemระบบ,
90
303280
3136
เราเพิ่งจะเริ่มคิดที่จะใช้ระบบภูมิคุ้มกัน
05:18
rememberingความทรงจำ that in factความจริง the cancerโรคมะเร็ง cellเซลล์
doesn't growเจริญ in a vacuumสูญญากาศ.
91
306440
3096
จำไว้นะครับว่าอันที่จริง
เซลล์มะเร็งไม่ได้เติบโตขึ้นมาในสุญญากาศ
05:21
It actuallyแท้จริง growsเติบโต in a humanเป็นมนุษย์ organismสิ่งมีชีวิต.
92
309560
2056
มันเติบโตอยู่ในร่างกายมนุษย์
05:23
And could you use the organismalมีชีวิต capacityความจุ,
93
311640
2296
และคุณจะใช้ความสามารถของเรา
05:25
the factความจริง that humanเป็นมนุษย์ beingsสิ่งมีชีวิต
have an immuneภูมิคุ้มกัน systemระบบ, to attackโจมตี cancerโรคมะเร็ง?
94
313960
3143
ระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์เรา
ในการโจมตีมะเร็งไม่ได้เชียวหรือ
05:29
In factความจริง, it's led to the some of the mostมากที่สุด
spectacularน่าตื่นเต้น newใหม่ medicinesยารักษาโรค in cancerโรคมะเร็ง.
95
317127
4200
อันที่จริง มันนำเราไปสู่ยาใหม่
ที่น่าทึ่งที่สุดสำหรับรักษามะเร็ง
05:34
And finallyในที่สุด there's the levelชั้น
of the environmentสิ่งแวดล้อม, isn't there?
96
322480
3334
และท้ายที่สุด
มันมีระดับของสิ่งแวดล้อมไม่ใช่หรือ
05:38
You know, we don't think of cancerโรคมะเร็ง
as alteringการเปลี่ยนแปลง the environmentสิ่งแวดล้อม.
97
326160
2976
รู้ไหมครับ ว่าเราไม่ได้คิดถึงมะเร็ง
ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม
05:41
But let me give you an exampleตัวอย่าง
of a profoundlyอย่างสุดซึ้ง carcinogenicสารก่อมะเร็ง environmentสิ่งแวดล้อม.
98
329160
4896
แต่ให้ผมได้ยกตัวอย่างให้คุณฟังเกี่ยวกับ
สิ่งแวดล้อมที่ก่อให้เกิดมะเร็งอย่างมาก
05:46
It's calledเรียกว่า a prisonคุก.
99
334080
1200
มันเรียกว่า คุก
05:48
You take lonelinessความเหงา, you take depressionพายุดีเปรสชัน,
you take confinementการคุมขัง,
100
336160
5136
คุณเอาความเดียวดาย ความเครียด
และการถูกกักขัง
05:53
and you addเพิ่ม to that,
101
341320
1200
ลองนึกต่อไปนะครับว่ามีอะไรอีก
05:55
rolledรีด up in a little
whiteขาว sheetแผ่น of paperกระดาษ,
102
343400
2560
พับม้วนมันด้วยกระดาษสีขาวแผ่นเล็ก ๆ
05:59
one of the mostมากที่สุด potentมีพลัง neurostimulantsneurostimulants
that we know, calledเรียกว่า nicotineนิโคติน,
103
347000
3776
หนึ่งในสารกระตุ้นประสาทที่มีฤทธิ์มากที่สุด
ที่เรารู้จักในนาม นิโคติน
06:02
and you addเพิ่ม to that one of the mostมากที่สุด potentมีพลัง
addictiveเสพติด substancesสาร that you know,
104
350800
4936
และเอาหนึ่งในสารเสพติดที่มีฤทธิ์มากทึ่สุด
ที่คุณรู้จักเติมเข้าไป
06:07
and you have
a pro-carcinogenicโปรสารก่อมะเร็ง environmentสิ่งแวดล้อม.
105
355760
2796
และคุณก็จะได้สิ่งแวดล้อม
ที่พร้อมจะก่อให้เกิดมะเร็ง
06:11
But you can have anti-carcinogenicป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
environmentsสภาพแวดล้อม too.
106
359520
2456
แต่คุณสามารถมีสิ่งแวดล้อม
ที่ต้านการเกิดมะเร็งได้เช่นกัน
06:14
There are attemptsความพยายามในการ to createสร้าง milieusสภาพแวดล้อมที่มี,
107
362000
2696
มีความพยายามที่จะสร้างสื่อกลาง
06:16
changeเปลี่ยนแปลง the hormonalเกี่ยวกับฮอร์โมน milieuสภาพแวดล้อม
for breastเต้านม cancerโรคมะเร็ง, for instanceตัวอย่าง.
108
364720
2762
ยกตัวอย่างเช่น เปลี่ยนแปลงสื่อกลาง
ที่เป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม
06:20
We're tryingพยายาม to changeเปลี่ยนแปลง the metabolicการเผาผลาญอาหาร
milieuสภาพแวดล้อม for other formsรูปแบบ of cancerโรคมะเร็ง.
109
368440
3416
เราพยายามเปลี่ยนสื่อกลางเมตาบอลิก
สำหรับมะเร็งรูปแบบอื่น ๆ
06:23
Or take anotherอื่น diseaseโรค, like depressionพายุดีเปรสชัน.
110
371880
2416
หรือลองพิจารณาโรคอื่น อย่างเช่น
โรคเครียด
06:26
Again, workingการทำงาน upwardsสูงกว่า,
111
374320
2656
เช่นเดียวกัน มันก่อตัวจากด้านล่างขึ้นไป
06:29
sinceตั้งแต่ the 1960s and 1970s,
we'veเราได้ triedพยายาม, again, desperatelyหมดท่า
112
377000
4016
ตั้งแต่ยุค 1960 และ 1970
เราพยายามอย่างมาก
06:33
to turnกลับ off moleculesโมเลกุล
that operateทำงาน betweenระหว่าง nerveเส้นประสาท cellsเซลล์ --
113
381040
4176
ในการปิดการทำงานของโมเลกุล
ที่กำกับทำงานระหว่างเซลล์ประสาท --
06:37
serotoninserotonin, dopamineโดพามีน --
114
385240
2176
เซราโทนิน โดปามีน --
06:39
and triedพยายาม to cureรักษา depressionพายุดีเปรสชัน that way,
115
387440
1816
และพยายามรักษาอาการเครียด
ด้วยวิธีการนั้น
06:41
and that's workedทำงาน,
but then that reachedถึง the limitจำกัด.
116
389280
2440
และมันก็ได้ผล
แต่จากนั้น เราก็ไปถึงทางตัน
06:45
And we now know that what you
really probablyอาจ need to do
117
393000
2620
และตอนนี้เราก็รู้ว่า
สิ่งที่คุณจะต้องทำจริง ๆ ก็คือ
06:47
is to changeเปลี่ยนแปลง the physiologyสรีรวิทยา
of the organอวัยวะ, the brainสมอง,
118
395644
2972
เปลี่ยนสรีรวิทยาของอวัยวะ
ซึ่งก็คือสมอง
06:50
rewirerewire it, remodelสร้างใหม่ it,
119
398640
2136
ย้อนมันกลับ จัดรูปแบบมันใหม่
06:52
and that, of courseหลักสูตร,
we know studyศึกษา uponเมื่อ studyศึกษา has shownแสดงให้เห็นว่า
120
400800
2576
และจากนั้น แน่นอนครับ
การศึกษามากมายได้แสดงว่า
06:55
that talk therapyการรักษาด้วย does exactlyอย่างแน่นอน that,
121
403400
1715
การบำบัดด้วยการพูดคุย
ทำให้เกิดสิ่งดังกล่าวเหล่านี้
06:57
and studyศึกษา uponเมื่อ studyศึกษา
has shownแสดงให้เห็นว่า that talk therapyการรักษาด้วย
122
405139
2256
และการศึกษามากมาย
ได้แสดงให้เห็นว่า การบำบัดด้วยการพูดคุย
06:59
combinedรวม with medicinesยารักษาโรค, pillsยา,
123
407419
3117
เมื่อใช่ร่วมกับเภสัชภัณฑ์ และยาแล้ว
07:02
really is much more effectiveมีประสิทธิภาพ
than eitherทั้ง one aloneคนเดียว.
124
410560
2429
มีประสิทธิภาพมากกว่า
ใช้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง
07:05
Can we imagineจินตนาการ a more immersiveดื่มด่ำ
environmentสิ่งแวดล้อม that will changeเปลี่ยนแปลง depressionพายุดีเปรสชัน?
125
413840
3576
เราจะสามารถจินตนาการถึงสิ่งแวดล้อม
ที่จะเปลี่ยนความเครียดนั้นได้หรือไม่
07:09
Can you lockล็อค out the signalsสัญญาณ
that elicitล้วงเอา depressionพายุดีเปรสชัน?
126
417440
4056
เราจะสามารถกั้นสัญญาณ
ที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดได้หรือเปล่า
07:13
Again, movingการเคลื่อนย้าย upwardsสูงกว่า alongตาม this
hierarchicalลำดับชั้น chainโซ่ of organizationองค์กร.
127
421520
5480
เช่นเดียวกันครับ เคลื่อนขึ้นไป
ตามสายโซ่ที่ลดหลั่นกันอย่างเป็นระเบียบนี้
07:19
What's really at stakeเดิมพัน perhapsบางที here
128
427760
2696
สิ่งที่สำคัญจริง ๆ
07:22
is not the medicineยา itselfตัวเอง but a metaphorคำอุปมา.
129
430480
3256
อาจจะไม่ใช่ตัวยาเอง แต่เป็นการเปรียบเปรย
07:25
Ratherค่อนข้าง than killingที่ฆ่า something,
130
433760
2056
แทนที่จะเป็นการฆ่าอะไรสักอย่าง
07:27
in the caseกรณี of the great
chronicเรื้อรัง degenerativeเสื่อมโทรม diseasesโรค --
131
435840
3696
ในกรณีของโรคเกี่ยวกับการเสื่อมสภาพ
ที่เรื้อรัง --
07:31
kidneyไต failureความล้มเหลว, diabetesโรคเบาหวาน,
hypertensionความดันเลือดสูง, osteoarthritisโรคข้อเข่าเสื่อม --
132
439560
3496
เช่น ไตล้มเหลว เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ข้อเสื่อม --
07:35
maybe what we really need to do is changeเปลี่ยนแปลง
the metaphorคำอุปมา to growingการเจริญเติบโต something.
133
443080
3572
บางที สิ่งที่เราต้องทำกันจริง ๆ
ก็คือการเปลี่ยนการเปรียบเปรย
07:38
And that's the keyสำคัญ, perhapsบางที,
134
446676
1940
และบางที นั่นก็เป็นกุญแจสำคัญ
07:40
to reframingReframing our thinkingคิด about medicineยา.
135
448640
2496
เพื่อสร้างกรอบการคิดใหม่ของเรา
เกี่ยวกับวงการแพทย์
07:43
Now, this ideaความคิด of changingเปลี่ยนแปลง,
136
451160
3456
เอาล่ะครับ แนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
07:46
of creatingการสร้าง a perceptualการรับรู้
shiftเปลี่ยน, as it were,
137
454640
2336
ของการสร้างแนวคิดใหม่นี้
07:49
cameมา home to me to roostค้างคืน in a very
personalส่วนบุคคล mannerลักษณะ about 10 yearsปี agoมาแล้ว.
138
457000
3296
พาผมกลับไปยังรากเหง้า
ในแบบที่เป็นส่วนตัว เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน
07:52
About 10 yearsปี agoมาแล้ว --
I've been a runnerทางวิ่ง mostมากที่สุด of my life --
139
460320
2776
ประมาณ 10 ปีก่อน --
ผมเป็นนักวิ่งมาเกือบทั้งชีวิต --
07:55
I wentไป for a runวิ่ง, a Saturdayวันเสาร์ morningตอนเช้า runวิ่ง,
140
463120
1976
ผมออกไปวิ่ง ตอนเช้าวันเสาร์
07:57
I cameมา back and wokeตื่น up
and I basicallyเป็นพื้น couldn'tไม่สามารถ moveย้าย.
141
465120
2656
และกลับมา ตื่นขึ้นมา
และไม่อาจขยับตัวได้
07:59
My right kneeเข่า was swollenปูด up,
142
467800
2016
เข่าขวาของผมบวม
08:01
and you could hearได้ยิน that ominousเป็นลางไม่ดี crunchกระทืบ
of boneกระดูก againstต่อต้าน boneกระดูก.
143
469840
3520
และคุณก็ได้ยินเสียงกรุบกรับของกระดูก
ที่กระทบกัน ที่เป็นการสื่อลางร้าย
08:06
And one of the perksperks of beingกำลัง a physicianแพทย์
is that you get to orderใบสั่ง your ownด้วยตัวเอง MRIsMRIs.
144
474240
4896
และประโยชน์หนึ่งของการเป็นแพทย์ก็คือ
คุณสามารถส่งตัวเองไปตรวจ MRI ได้
08:11
And I had an MRIMRI the nextต่อไป weekสัปดาห์,
and it lookedมอง like that.
145
479160
3976
ผมได้ผล MRI ในอีกสัปดาห์ต่อมา
และมันก็มีหน้าตาเป็นแบบนี้
08:15
Essentiallyเป็นหลัก, the meniscusวงเดือน of cartilageกระดูกอ่อน
that is betweenระหว่าง boneกระดูก
146
483160
4296
โดยรวมแล้วกระดูกอ่อนมินิสคัส
ที่อยู่ระหว่างกระดูก
08:19
had been completelyอย่างสมบูรณ์ tornฉีกขาด
and the boneกระดูก itselfตัวเอง had been shatteredแตกเป็นเสี่ยง ๆ.
147
487480
3416
ถูกฉีกเสียจนไม่เหลือ
และกระดูกเองก็แตกด้วย
08:22
Now, if you're looking at me
and feelingความรู้สึก sorry,
148
490920
2456
เอาล่ะครับ ถ้าคุณมองมาที่ผม
และรู้สึกเสียใจไปกับผม
08:25
let me tell you a fewน้อย factsข้อเท็จจริง.
149
493400
1816
ให้ผมได้บอกอะไรคุณสักนิดนะครับ
08:27
If I was to take an MRIMRI
of everyทุกๆ personคน in this audienceผู้ชม,
150
495240
4176
ถ้าผมได้ผล MRI ของทุกคนในที่นี้
08:31
60 percentเปอร์เซ็นต์ of you would showแสดง signsสัญญาณ
151
499440
2056
เราจะพบว่า พวกคุณ 60 เปอร์เซ็นต์
08:33
of boneกระดูก degenerationการเสื่อมสภาพ
and cartilageกระดูกอ่อน degenerationการเสื่อมสภาพ like this.
152
501520
2776
จะมีอาการของการเสื่อมของกระดูก
และการเสื่อมของกระดูกอ่อน
08:36
85 percentเปอร์เซ็นต์ of all womenผู้หญิง by the ageอายุ of 70
153
504320
3776
85 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงทุกคน
ตอนมีอายุประมาณ 70 ปี
08:40
would showแสดง moderateปานกลาง to severeรุนแรง
cartilageกระดูกอ่อน degenerationการเสื่อมสภาพ.
154
508120
3256
จะมีอาการกระดูกอ่อนเสื่อม
ในระดับปานกลางถึงรุนแรง
08:43
50 to 60 percentเปอร์เซ็นต์
of the menผู้ชาย in this audienceผู้ชม
155
511400
2296
50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
ของผู้ชายในที่นี้
08:45
would alsoด้วย have suchอย่างเช่น signsสัญญาณ.
156
513720
1336
จะมีอาการแบบนั้นเช่นกัน
08:47
So this is a very commonร่วมกัน diseaseโรค.
157
515080
1776
ฉะนั้น มันเป็นโรคที่พบได้มาก
08:48
Well, the secondที่สอง perkเงย of beingกำลัง a physicianแพทย์
158
516880
2096
ครับ อีกประโยชน์หนึ่งของการเป็นแพทย์
08:51
is that you can get
to experimentการทดลอง on your ownด้วยตัวเอง ailmentsโรคภัยไข้เจ็บ.
159
519000
3135
ก็คือคุณสามารถทำการทดลอง
กับอาการป่วยของตัวเองได้
08:54
So about 10 yearsปี agoมาแล้ว we beganเริ่ม,
160
522159
2217
ฉะนั้น ประมาณ 10 ปีก่อน
08:56
we broughtนำ this processกระบวนการ
into the laboratoryห้องปฏิบัติการ,
161
524400
2416
ผมนำกระบวนการนี้ไปยังห้องทดลอง
08:58
and we beganเริ่ม to do simpleง่าย experimentsการทดลอง,
162
526840
2016
และเราก็เริ่มทำการทดลองง่าย ๆ
09:00
mechanicallyในทางกลไก tryingพยายาม
to fixแก้ไขปัญหา this degenerationการเสื่อมสภาพ.
163
528880
2456
พยายามแก้ไขการเสื่อมสภาพนี้
09:03
We triedพยายาม to injectฉีด chemicalsสารเคมี
into the kneeเข่า spacesช่องว่าง of animalsสัตว์
164
531360
4816
เราพยายามที่จะฉีดสารเคมี
เข้าไปในช่องว่างระหว่างเขาของสัตว์
09:08
to try to reverseถอยหลัง cartilageกระดูกอ่อน degenerationการเสื่อมสภาพ,
165
536200
2656
เพื่อพยายามย้อน
การเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนกลับ
09:10
and to put a shortสั้น summaryสรุป
on a very long and painfulเจ็บปวด processกระบวนการ,
166
538880
4536
และเราสรุปกระบวนการ
ที่แสนจะยาวนานนั้นได้ง่าย ๆ ว่า
09:15
essentiallyเป็นหลัก it cameมา to naughtความล้มเหลว.
167
543440
1776
ที่สุดแล้ว มันไม่เหลืออะไรเลย
09:17
Nothing happenedที่เกิดขึ้น.
168
545240
1200
มันไม่เกิดอะไรขึ้นเลยครับ
09:18
And then about sevenเจ็ด yearsปี agoมาแล้ว,
we had a researchการวิจัย studentนักเรียน from Australiaออสเตรเลีย.
169
546880
4776
และจากนั้นประมาณเจ็ดปีก่อน ผมก็ได้
นักเรียนวิจัยของผมคนหนึ่งจากออสเตรเลีย
09:23
The niceดี thing about Australiansออสเตรเลีย
170
551680
1525
สิ่งที่น่ารักสำหรับชาวออสเตรเลีย
09:25
is that they're habituallyเป็นประจำ used to
looking at the worldโลก upsideกลับหัวกลับหาง down.
171
553205
3316
ก็คือพวกเขาชอบมองอะไรกลับหัว
09:28
(Laughterเสียงหัวเราะ)
172
556546
1157
(เสียงหัวเราะ)
09:29
And so Danแดน suggestedข้อเสนอแนะ to me, "You know,
maybe it isn't a mechanicalเชิงกล problemปัญหา.
173
557727
4089
และแดนก็บอกผมว่า "รู้อะไรไหม
บางทีมันไม่ใช่ปัญหาเรื่องกลไกหรอก
09:33
Maybe it isn't a chemicalสารเคมี problemปัญหา.
Maybe it's a stemก้านดอก cellเซลล์ problemปัญหา."
174
561840
4000
บางทีมันอาจเป็นปัญหาทางเคมี
บางทีมันอาจเป็นปัญหาเรื่องสเต็มเซลล์"
09:39
In other wordsคำ, he had two hypothesesสมมติฐาน.
175
567760
1896
หรือพูดอีกนัยหนึ่ง เขามีสองสมมติฐาน
09:41
Numberจำนวน one, there is suchอย่างเช่น a thing
as a skeletalเกี่ยวกับโครงกระดูก stemก้านดอก cellเซลล์ --
176
569680
3816
อย่างแรก มันมีสิ่งที่เรียกว่า
สเต็มเซลล์โครงกระดูก --
09:45
a skeletalเกี่ยวกับโครงกระดูก stemก้านดอก cellเซลล์ that buildsสร้าง up
the entireทั้งหมด vertebrateมีกระดูกสันหลัง skeletonโครงกระดูก,
177
573520
3520
ซึ่งก็คือ สเต็มเซลล์โครงกระดูก
ที่สร้างโครงกระดูก
09:49
boneกระดูก, cartilageกระดูกอ่อน and the fibrousเป็นเส้น ๆ
elementsองค์ประกอบ of skeletonโครงกระดูก,
178
577064
2532
กระดูกแข็ง กระดูกอ่อน
และโครงสร้างเส้นใยของโครงกระดูก
09:51
just like there's a stemก้านดอก cellเซลล์ in bloodเลือด,
179
579620
1865
ของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง
เช่นเดียวกับสเต็มเซลล์ในเลือด
09:53
just like there's a stemก้านดอก cellเซลล์
in the nervousหงุดหงิด systemระบบ.
180
581510
2435
เช่นเดียวกับที่มันมีสเต็มเซลล์
ในระบบประสาท
09:55
And two, that maybe that, the degenerationการเสื่อมสภาพ
or dysfunctionความผิดปกติของ of this stemก้านดอก cellเซลล์
181
583969
3560
และอย่างที่สองก็คือ การเสื่อมสภาพ
หรือการพร่องประสิทธิภาพของสเต็มเซลล์นี้
09:59
is what's causingการก่อให้เกิด osteochondralosteochondral arthritisโรคไขข้อ,
a very commonร่วมกัน ailmentโรค.
182
587554
3502
คือสิ่งที่ทำให้เกิดข้อกระดูกเสื่อม
ซึ่งเป็นอาการที่พบได้มาก
10:03
So really the questionคำถาม was,
were we looking for a pillยา
183
591080
3216
ฉะนั้น คำถามก็คือ
เรากำลังมองหายารักษา
10:06
when we should have really
been looking for a cellเซลล์.
184
594320
2616
ในเมื่อเราควรที่จะมองหาเซลล์หรือเปล่า
10:08
So we switchedเปลี่ยน our modelsรุ่น,
185
596960
2856
เราก็เลยเปลี่ยนแบบจำลองของเรา
10:11
and now we beganเริ่ม
to look for skeletalเกี่ยวกับโครงกระดูก stemก้านดอก cellsเซลล์.
186
599840
3120
และตอนนี้ เราก็เริ่มมองหา
สเต็มเซลล์โครงกระดูก
10:15
And to cutตัด again a long storyเรื่องราว shortสั้น,
187
603560
2496
และเพื่อเป็นการสรุปเรื่องให้กระชับ
10:18
about fiveห้า yearsปี agoมาแล้ว,
we foundพบ these cellsเซลล์.
188
606080
2920
ประมาณห้าปีก่อน เราพบเซลล์เหล่านี้
10:21
They liveมีชีวิต insideภายใน the skeletonโครงกระดูก.
189
609800
2496
พวกมันอยู่ในโครงกระดูก
10:24
Here'sต่อไปนี้คือ a schematicแผนผัง and then
a realจริง photographถ่ายภาพ of one of them.
190
612320
2896
นี่คือแผนภาพและภาพถ่ายจริงของพวกมัน
10:27
The whiteขาว stuffสิ่ง is boneกระดูก,
191
615240
1936
ส่วนสีขาวคือกระดูก
10:29
and these redสีแดง columnsคอลัมน์ that you see
and the yellowสีเหลือง cellsเซลล์
192
617200
3016
และคอลัมสีแดงที่คุณเห็นเหล่านี้
และเซลล์สีเหลือง
10:32
are cellsเซลล์ that have arisenเกิดขึ้น
from one singleเดียว skeletalเกี่ยวกับโครงกระดูก stemก้านดอก cellเซลล์ --
193
620240
3256
คือเซลล์ที่เกิดขึ้น
จากสเต็มเซลล์โครงกระดูกเซลล์เดียว --
10:35
columnsคอลัมน์ of cartilageกระดูกอ่อน, columnsคอลัมน์ of boneกระดูก
comingมา out of a singleเดียว cellเซลล์.
194
623520
3296
คอลัมของกระดูกอ่อน กระดูกแข็ง
เกิดมาจากเซลล์เพียงเซลล์เดียว
10:38
These cellsเซลล์ are fascinatingมโนหร.
They have fourสี่ propertiesคุณสมบัติ.
195
626840
3296
เซลล์เหล่านี้น่าทึ่งมาก
พวกมันมีคุณสมบัติสี่ประการ
10:42
Numberจำนวน one is that they liveมีชีวิต
where they're expectedที่คาดหวัง to liveมีชีวิต.
196
630160
3776
อย่างแรกคือพวกมันอยู่ในที่ที่พวกมันควรอยู่
10:45
They liveมีชีวิต just underneathภายใต้
the surfaceพื้นผิว of the boneกระดูก,
197
633960
2376
พวกมันอยู่ใต้พื้นผิวของกระดูก
10:48
underneathภายใต้ cartilageกระดูกอ่อน.
198
636360
1536
ใต้กระดูกอ่อน
10:49
You know, in biologyชีววิทยา,
it's locationที่ตั้ง, locationที่ตั้ง, locationที่ตั้ง.
199
637920
2620
ครับ ในทางชีววิทยา
บริเวณและสถานที่มันมีความสำคัญ
10:52
And they moveย้าย into the appropriateเหมาะสม areasพื้นที่
and formฟอร์ม boneกระดูก and cartilageกระดูกอ่อน.
200
640564
4252
และพวกมันก็ย้ายเข้าไปในบริเวณที่เหมาะสม
และก่อกำเนิดเป็นกระดูกและกระดูกอ่อน
10:56
That's one.
201
644840
1256
นั่นครับ
10:58
Here'sต่อไปนี้คือ an interestingน่าสนใจ propertyคุณสมบัติ.
202
646120
1536
คุณสมบัติที่น่าสนใจอีกประการคือ
10:59
You can take them out
of the vertebrateมีกระดูกสันหลัง skeletonโครงกระดูก,
203
647680
2656
คุณสามารถเอาพวกมันออกมา
จากโครงกระดูกของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
11:02
you can cultureวัฒนธรรม them
in petriPetri dishesอาหาร in the laboratoryห้องปฏิบัติการ,
204
650360
2576
คุณเลี้ยงพวกมันในจานเลี้ยงเชื้อ
ในห้องทดลอง
11:04
and they are dyingเฮือกสุดท้าย to formฟอร์ม cartilageกระดูกอ่อน.
205
652960
1976
และพวกมัน
ก็อยากจะสร้างกระดูกอ่อนใจจะขาดแล้ว
11:06
Rememberจำ how we couldn'tไม่สามารถ
formฟอร์ม cartilageกระดูกอ่อน for love or moneyเงิน?
206
654960
2722
จำไว้นะครับว่า เราไม่สามารถสร้างกระดูกอ่อน
ได้จากความรักหรือว่าเงิน
11:09
These cellsเซลล์ are dyingเฮือกสุดท้าย to formฟอร์ม cartilageกระดูกอ่อน.
207
657706
1919
เซลล์เหล่านี้อยากจะสร้างกระดูกอ่อนมาก
11:11
They formฟอร์ม theirของพวกเขา ownด้วยตัวเอง furlsfurls
of cartilageกระดูกอ่อน around themselvesตัวเอง.
208
659650
3005
พวกมันสร้างกระดูกอ่อนของพวกมันเอง
ไว้ล้อมรอบพวกมัน
11:14
They're alsoด้วย, numberจำนวน threeสาม,
209
662680
1616
อย่างที่สาม พวกมันยัง
11:16
the mostมากที่สุด efficientที่มีประสิทธิภาพ repairersซ่อม
of fracturesกระดูกหัก that we'veเราได้ ever encounteredพบ.
210
664320
4176
เป็นผู้ซ่อมแซมส่วนที่หักที่มีประสิทธิภาพที่สุด
ที่เราไม่เคยพบมาก่อน
11:20
This is a little boneกระดูก,
a mouseเม้าส์ boneกระดูก that we fracturedร้าว
211
668520
3296
นี่คือกระดูกเล็ก ๆ
กระดูกของหนูที่เราทำให้มีรอยแตก
11:23
and then let it healรักษา by itselfตัวเอง.
212
671840
1536
และปล่อยให้มันซ่อมตัวเอง
11:25
These stemก้านดอก cellsเซลล์ have come in
and repairedการซ่อมแซม, in yellowสีเหลือง, the boneกระดูก,
213
673400
3016
สเต็มเซลล์เหล่านี้เข้ามา
และซ่อมกระดูก ในส่วนสีเหลือง
11:28
in whiteขาว, the cartilageกระดูกอ่อน,
almostเกือบจะ completelyอย่างสมบูรณ์.
214
676440
2616
กระดูกอ่อน ในส่วนสีขาว
เกือบที่จะสมบูรณ์
11:31
So much so that if you labelฉลาก them
with a fluorescentเรือง dyeย้อม
215
679080
3536
คุณจะเห็นพวกมันมากมาย
ถ้าย้อมด้วยสีย้อมเรืองแสง
11:34
you can see them like some kindชนิด
of peculiarแปลก cellularโทรศัพท์มือถือ glueกาว
216
682640
3736
คุณจะเห็นว่าพวกมันดูคล้าย ๆ
กับกาวในระดับเซลล์
11:38
comingมา into the areaพื้นที่ of a fractureกระดูกหัก,
217
686400
1856
เข้ามาในบริเวณของรอยแตก
11:40
fixingเครื่องประกอบ it locallyในท้องถิ่น
and then stoppingการหยุด theirของพวกเขา work.
218
688280
2976
ซ่อมบริเวณนั้น
แลจากนั้นก็หยุดการทำงาน
11:43
Now, the fourthที่สี่ one is the mostมากที่สุด ominousเป็นลางไม่ดี,
219
691280
2336
ตอนนี้ อย่างที่สี่ เป็นสิ่งที่ลางร้าย
11:45
and that is that theirของพวกเขา numbersหมายเลข
declineปฏิเสธ precipitouslyบุ่มบ่าม,
220
693640
4136
และมันก็คือ จำนวนของพวกมัน
ลดลงอย่างรวดเร็ว
11:49
precipitouslyบุ่มบ่าม, tenfoldเป็นสิบเท่า,
fiftyfoldfiftyfold, as you ageอายุ.
221
697800
4696
รวดเร็วประมาณ สิบถึงสิบหน้าเท่า
เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น
11:54
And so what had happenedที่เกิดขึ้น, really,
222
702520
1576
และสิ่งที่เกิดขึ้นน่ะหรือครับ
11:56
is that we foundพบ ourselvesตัวเรา
in a perceptualการรับรู้ shiftเปลี่ยน.
223
704120
2856
ก็คือเราพบว่า
พวกเรามีความเปลี่ยนแปลง
11:59
We had goneที่ไปแล้ว huntingการล่าสัตว์ for pillsยา
224
707000
2736
เราพยายามตามล่าหายา
12:01
but we endedสิ้นสุดวันที่ up findingคำวินิจฉัย theoriesทฤษฎี.
225
709760
2496
แต่เราก็จบลงที่การมาค้นหาทฤษฎี
12:04
And in some waysวิธี
226
712280
1216
และในทำนองเดียวกัน
12:05
we had hookedติดยาเสพติด ourselvesตัวเรา
back ontoไปยัง this ideaความคิด:
227
713520
2616
เรากลับไปได้ความคิดในแบบเก่า ๆ
12:08
cellsเซลล์, organismsสิ่งมีชีวิต, environmentsสภาพแวดล้อม,
228
716160
2896
เกี่ยวกับ เซลล์ สิ่งมีชีวิต
สิ่งแวดล้อม
12:11
because we were now thinkingคิด
about boneกระดูก stemก้านดอก cellsเซลล์,
229
719080
2576
เพราะว่าเราไม่ได้คิดเกี่ยวกับ
สเต็มเซลล์กระดูก
12:13
we were thinkingคิด about arthritisโรคไขข้อ
in termsเงื่อนไข of a cellularโทรศัพท์มือถือ diseaseโรค.
230
721680
3440
เราคิดถึงโรคข้อเสื่อม
ในแบบของโรคระดับเซลล์
12:17
And then the nextต่อไป questionคำถาม was,
are there organsอวัยวะ?
231
725840
2286
และจากนั้น คำถามต่อไปก็คือ
แล้วอวัยวะล่ะ
12:20
Can you buildสร้าง this
as an organอวัยวะ outsideด้านนอก the bodyร่างกาย?
232
728150
2239
เราสร้างสิ่งนี้เป็นอวัยวะภายนอกร่างกาย
ได้หรือเปล่า
12:22
Can you implantสอดใส่ cartilageกระดูกอ่อน
into areasพื้นที่ of traumaการบาดเจ็บ?
233
730413
3843
เราจะสามารถปลูกถ่ายกระดูกอ่อน
เข้าไปในบริเวณที่เกิดแผล
12:26
And perhapsบางที mostมากที่สุด interestinglyอย่างน่าสนใจ,
234
734280
1976
และบางทีที่น่าสนใจที่สุด
12:28
can you ascendขึ้นไป right up
and createสร้าง environmentsสภาพแวดล้อม?
235
736280
2376
คุณจะสามารถสร้างขึ้นไป
จนถึงสิ่งแวดล้อมได้หรือเปล่า
12:30
You know, we know
that exerciseการออกกำลังกาย remodelsremodels boneกระดูก,
236
738680
3056
ครับ เรารู้ว่าการออกกำลังสร้างกระดูกใหม่
12:33
but come on, noneไม่มี of us
is going to exerciseการออกกำลังกาย.
237
741760
2416
แต่เอาจริง ๆ นะครับ
ไม่มีใครจะออกกำลังกายกันหรอก
12:36
So could you imagineจินตนาการ waysวิธี of passivelyอย่างอดทน
loadingโหลด and unloadingการปลดปล่อย boneกระดูก
238
744200
5176
แล้วคุณนึกวิธีที่จะเอากระดูกเข้าและออก
อย่างไม่ต้องใช้แรงได้หรือเปล่า
12:41
so that you can recreateสร้างใหม่
or regenerateงอกใหม่ degeneratingถดถอย cartilageกระดูกอ่อน?
239
749400
4816
เพื่อที่คุณจะได้สร้างหรือทำให้กระดูกอ่อน
เจริญเกิดขึ้นมาใหม่
12:46
And perhapsบางที more interestingน่าสนใจ,
and more importantlyที่สำคัญ,
240
754240
2381
และบางทีที่น่าสนใจ
และน่าจะมีความสำคัญมากที่สุด
12:48
the questionคำถาม is, can you applyใช้ this modelแบบ
more globallyทั่วโลก outsideด้านนอก medicineยา?
241
756645
3451
คำถามก็คือ คุณจะนำเอาแบบจำลองนี้
ไปใช้กับโลกความเป็นจริงนอกวงการแพทย์ได้ไหม
12:52
What's at stakeเดิมพัน, as I said before,
is not killingที่ฆ่า something,
242
760120
4056
สิ่งที่เป็นความท้าทาย ดังที่ผมได้บอกก่อนหน้านี้
ไม่ใช่การฆ่าอะไรสักอย่าง
12:56
but growingการเจริญเติบโต something.
243
764200
1440
แต่เป็นการเลี้ยงอะไรสักอย่าง
12:58
And it raisesยก a seriesชุด of, I think,
some of the mostมากที่สุด interestingน่าสนใจ questionsคำถาม
244
766280
4816
และผมก็คิดว่า
มันก็ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจที่สุด
13:03
about how we think
about medicineยา in the futureอนาคต.
245
771120
2520
และการที่เราคิดเกี่ยวกับอนาคตของวงการแพทย์
13:07
Could your medicineยา
be a cellเซลล์ and not a pillยา?
246
775040
2880
ยาของคุณจะเป็นเซลล์ ไม่ใช่ยาเม็ด
13:10
How would we growเจริญ these cellsเซลล์?
247
778840
2376
เราจะเลี้ยงเซลล์ได้อย่างไร
13:13
What we would we do to stop
the malignantร้าย growthการเจริญเติบโต of these cellsเซลล์?
248
781240
3016
เราจะหยุดการเติบโตอย่างลุกลาม
ของเซลล์เหล่านี้ได้อย่างไร
13:16
We heardได้ยิน about the problemsปัญหาที่เกิดขึ้น
of unleashingมหา growthการเจริญเติบโต.
249
784280
3896
เราทราบถึงปัญหาที่ทำให้เกิดการเติบโต
แบบลุกลามนี้
13:20
Could we implantสอดใส่
suicideการฆ่าตัวตาย genesยีน into these cellsเซลล์
250
788200
2776
เราจะสามารถปลูกถ่ายยีนฆ่าตัวตาย
เข้าไปในเซลล์เหล่านี้ได้หรือเปล่า
13:23
to stop them from growingการเจริญเติบโต?
251
791000
1440
เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของพวกมัน
13:25
Could your medicineยา be an organอวัยวะ
that's createdสร้าง outsideด้านนอก the bodyร่างกาย
252
793040
3936
ยาของคุณจะเป็นอวัยวะ
ที่ถูกสร้างขึ้นภายนอกร่างกาย
13:29
and then implantedปลูกฝัง into the bodyร่างกาย?
253
797000
1936
และปลูกถ่ายเข้าไปในร่างกายได้หรือไม่
13:30
Could that stop some of the degenerationการเสื่อมสภาพ?
254
798960
2736
แล้วมันจะหยุดการเสื่อมถอยได้หรือเปล่า
13:33
What if the organอวัยวะ neededจำเป็น to have memoryหน่วยความจำ?
255
801720
1905
ถ้าหากอวัยวะที่ต้องการเป็นความทรงจำล่ะ
13:35
In casesกรณี of diseasesโรค of the nervousหงุดหงิด systemระบบ
some of those organsอวัยวะ had memoryหน่วยความจำ.
256
803649
4767
ในกรณีของโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท
อวัยวะเหล่านี้มีความทรงจำอยู่
13:40
How could we implantสอดใส่
those memoriesความทรงจำ back in?
257
808440
2456
เราจะปลูกถ่ายความทรงจำกลับไปได้อย่างไร
13:42
Could we storeเก็บ these organsอวัยวะ?
258
810920
1816
เราเก็บรักษาอวัยวะเหล่านี้ได้หรือเปล่า
13:44
Would eachแต่ละ organอวัยวะ have to be developedพัฒนา
for an individualรายบุคคล humanเป็นมนุษย์ beingกำลัง
259
812760
3143
อวัยวะแต่ละอย่างจะต้องถูกพัฒนา
สำหรับมนุษย์แต่ละคน
13:47
and put back?
260
815927
1200
และนำมันกลับไปใช่หรือเปล่า
13:50
And perhapsบางที mostมากที่สุด puzzlinglypuzzlingly,
261
818520
2616
และบางที ที่น่าฉงนที่สุด
13:53
could your medicineยา be an environmentสิ่งแวดล้อม?
262
821160
1810
ยาของคุณจะเป็นสิ่งแวดล้อมได้หรือไม่
13:56
Could you patentสิทธิบัตร an environmentสิ่งแวดล้อม?
263
824160
1656
คุณจะจดสิทธิบัตรสิ่งแวดล้อมได้หรือเปล่า
13:57
You know, in everyทุกๆ cultureวัฒนธรรม,
264
825840
3456
ในทุก ๆ วัฒนธรรม
14:01
shamansหมอ have been usingการใช้
environmentsสภาพแวดล้อม as medicinesยารักษาโรค.
265
829320
2936
จอมเวทย์ได้ใช้สิ่งแวดล้อมเป็นยา
14:04
Could we imagineจินตนาการ that for our futureอนาคต?
266
832280
2320
เราจะจินตนาการถึงสิ่งนั้น
เพื่ออนาคตของพวกเราได้หรือเปล่า
14:08
I've talkedพูดคุย a lot about modelsรุ่น.
I beganเริ่ม this talk with modelsรุ่น.
267
836080
3376
ผมได้บรรยายไปมากเกี่ยวกับแบบจำลอง
ผมเริ่มการบรรยายนี้ด้วยแบบจำลอง
14:11
So let me endปลาย with some thoughtsความคิด
about modelแบบ buildingอาคาร.
268
839480
2696
ฉะนั้น ให้ผมจบการบรรยายนี้
ด้วยแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างแบบจำลอง
14:14
That's what we do as scientistsนักวิทยาศาสตร์.
269
842200
2096
สิ่งที่เราทำในฐานะนักวิทยาศาสตร์
14:16
You know, when an architectสถาปนิก
buildsสร้าง a modelแบบ,
270
844320
3296
เมื่อสถาปนิกสร้างแบบจำลอง
14:19
he or she is tryingพยายาม to showแสดง you
a worldโลก in miniatureขนาดเล็ก.
271
847640
3296
เขาหรือเธอก็พยายามที่จะแสดง
โลกขนาดเล็ก ๆ ให้กับคุณ
14:22
But when a scientistนักวิทยาศาสตร์ is buildingอาคาร a modelแบบ,
272
850960
2896
แต่เมื่อนักวิทยาศาสตร์กำลังสร้างแบบจำลอง
14:25
he or she is tryingพยายาม to showแสดง you
the worldโลก in metaphorคำอุปมา.
273
853880
2524
เขาหรือเธอพยายามที่จะสร้าง
โลกในแบบการเปรียบเปรย
14:29
He or she is tryingพยายาม to createสร้าง
a newใหม่ way of seeingเห็น.
274
857600
3856
เขาหรือเธอพยายามที่จะสร้าง
หนทางใหม่ในการมองเห็น
14:33
The formerอดีต is a scaleขนาด shiftเปลี่ยน.
The latterระยะหลัง is a perceptualการรับรู้ shiftเปลี่ยน.
275
861480
4120
แบบดั้งเดิมเป็นการเปลี่ยนระดับ
แบบอย่างหลังเป็นการเปลี่ยนการรับรู้
14:38
Now, antibioticsยาปฏิชีวนะ createdสร้าง
suchอย่างเช่น a perceptualการรับรู้ shiftเปลี่ยน
276
866920
4936
ทีนี้ ยาปฏิชีวนะ
ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนการรับรู้
14:43
in our way of thinkingคิด about medicineยา
that it really coloredมีสี, distortedบิดเบี้ยว,
277
871880
3816
ในรูปแบบความคิดของเราเกี่ยวกับยา
ที่ทำให้วิธีที่เราคิด
14:47
very successfullyประสบความสำเร็จ, the way we'veเราได้ thought
about medicineยา for the last hundredร้อย yearsปี.
278
875720
3920
เกี่ยวกับยาในหลายร้อยปีที่ผ่านมา
ถูกเติมแต่งและทำให้บิดเบี้ยวอย่างสมบูรณ์
14:52
But we need newใหม่ modelsรุ่น
to think about medicineยา in the futureอนาคต.
279
880400
4416
แต่เราต้องการแบบจำลองใหม่
เพื่อที่จะเป็นแนวคิดด้านการแพทย์ในอนาคต
14:56
That's what's at stakeเดิมพัน.
280
884840
1480
นั่นคือความท้าทาย
14:59
You know, there's
a popularเป็นที่นิยม tropeเปรียบเทียบ out there
281
887480
3336
มันมีภาพลักษณ์ที่เป็นที่นิยม
15:02
that the reasonเหตุผล we haven'tยังไม่ได้ had
the transformativeกระแส impactส่งผลกระทบ
282
890840
3976
ที่เป็นเหตุผลว่า การที่เรา
ไม่มีในการเปลี่ยนแปลงสำคัญ
15:06
on the treatmentการรักษา of illnessเจ็บป่วย
283
894840
1976
เกี่ยวกับการบำบัดรักษาความเจ็บป่วย
15:08
is because we don't have
powerful-enoughที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ drugsยาเสพติด,
284
896840
2856
ก็เป็นเพราะเราไม่มียาที่มีประสิทธิภาพพอ
15:11
and that's partlyเป็นบางส่วน trueจริง.
285
899720
1360
และมันก็จริงเพียงบางส่วน
15:14
But perhapsบางที the realจริง reasonเหตุผล is
286
902120
1496
แต่บางทีเหตุผลที่แท้จริงก็คือ
15:15
that we don't have powerful-enoughที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
waysวิธี of thinkingคิด about medicinesยารักษาโรค.
287
903640
3200
เราไม่มีวิธีคิดอ่านเกี่ยวกับการแพทย์
ที่ทรงพลังพอต่างหาก
15:20
It's certainlyอย่างแน่นอน trueจริง that
288
908560
2416
มันจริงที่ว่า
15:23
it would be lovelyน่ารัก to have newใหม่ medicinesยารักษาโรค.
289
911000
3776
มันน่าจะดีทีเดียวที่จะมียาใหม่ ๆ
15:26
But perhapsบางที what's really at stakeเดิมพัน
are threeสาม more intangibleไม่มีตัวตน M'sนางสาว:
290
914800
4656
แต่บางทีสิ่งที่เป็นความท้าทายสำคัญ
คือ M ทั้งสามที่เป็นนามธรรม
15:31
mechanismsกลไก, modelsรุ่น, metaphorsอุปมาอุปมัย.
291
919480
3816
ซึ่งได้แก่ กลไกล แบบจำลอง
และการเปรียบเปรย
15:35
Thank you.
292
923320
1336
ของคุณครับ
15:36
(Applauseการปรบมือ)
293
924680
6840
(เสียงปรบมือ)
15:45
Chrisคริส Andersonเดอร์สัน:
I really like this metaphorคำอุปมา.
294
933600
3416
คริส แอนเดอร์สัน:
ผมชอบการเปรียบเปรยจริง ๆ
15:49
How does it linkลิงค์ in?
295
937040
1536
มันเชื่อมต่อเข้าไปได้อย่างไรครับ
15:50
There's a lot of talk in technologylandtechnologyland
296
938600
3136
มีการบรรยายมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี
15:53
about the personalizationส่วนบุคคล of medicineยา,
297
941760
2136
เกี่ยวกับการแพทย์ส่วนบุคคล
15:55
that we have all this dataข้อมูล
and that medicalทางการแพทย์ treatmentsการรักษา of the futureอนาคต
298
943920
3416
ที่เรามีข้อมูลทั้งหมด
และการบำบัดทางการแพทย์สำหรับอนาคต
15:59
will be for you specificallyเฉพาะ,
your genomeจีโนม, your currentปัจจุบัน contextบริบท.
299
947360
4496
จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณอย่างจำเพาะ
จีโนมของคุณ บริบทของคุณตอนนี้
16:03
Does that applyใช้ to this modelแบบ
you've got here?
300
951880
3936
นั่นมันใช้ได้กับแบบจำลอง
ที่คุณมีอยู่ตรงนี้หรือเปล่าครับ
16:07
Siddharthaพระพุทธเจ้า Mukherjeeเค:
It's a very interestingน่าสนใจ questionคำถาม.
301
955840
2616
สิทธัตถะ มุกเคอร์จี:
มันเป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ
16:10
We'veเราได้ thought about
personalizationส่วนบุคคล of medicineยา
302
958480
2216
เราคิดถึงการแพทย์ส่วนบุคคล
16:12
very much in termsเงื่อนไข of genomicsฟังก์ชั่น.
303
960720
1536
อย่างมากในส่วนของจีโนม
16:14
That's because the geneยีน
is suchอย่างเช่น a dominantเด่น metaphorคำอุปมา,
304
962280
2576
นั่นเป็นเพราะว่ายีน
เป็นการเปรียบเปรยที่เด่นชัด
16:16
again, to use that sameเหมือนกัน wordคำ,
in medicineยา todayในวันนี้,
305
964880
2976
อีกครั้งครับ ถ้าจะใช้คำเดียวกัน
ในการแพทย์ทุกวันนี้
16:19
that we think the genomeจีโนม will driveขับรถ
the personalizationส่วนบุคคล of medicineยา.
306
967880
3736
ที่เราคิดว่าจีโนมจะขับเคลื่อน
การแพทย์ส่วนบุคคล
16:23
But of courseหลักสูตร the genomeจีโนม
is just the bottomด้านล่าง
307
971640
3096
แต่แน่นอน จีโนมเป็นเพียงพื้นฐาน
16:26
of a long chainโซ่ of beingกำลัง, as it were.
308
974760
3816
ของโซ่สายยาวของสิ่งมีชีวิต
ในแบบที่มันเป็น
16:30
That chainโซ่ of beingกำลัง, really the first
organizedจัด unitหน่วย of that, is the cellเซลล์.
309
978600
3816
โซ่ที่ว่านี้ เป็นหน่วยแรกที่ถูกจัดเรียงของสิ่งนั้น
ซึ่งก็คือเซลล์
16:34
So, if we are really going to deliverส่งมอบ
in medicineยา in this way,
310
982440
2976
ฉะนั้น ถ้าเรากำลังจะทำให้เกิด
การแพทย์ส่วนบุคคลในลักษณะนี้
16:37
we have to think of personalizingส่วนบุคคล
cellularโทรศัพท์มือถือ therapiesการบำบัดรักษา,
311
985440
2816
เราจะต้องคิดถึงการบำบัดระดับเซลล์
แบบส่วนบุคคล
16:40
and then personalizingส่วนบุคคล
organอวัยวะ or organismalมีชีวิต therapiesการบำบัดรักษา,
312
988280
3176
และจากนั้นการบำบัดด้วยอวัยวะ
หรืออวัยวะส่วนบุคคล
16:43
and ultimatelyในที่สุด personalizingส่วนบุคคล
immersionการแช่ therapiesการบำบัดรักษา for the environmentสิ่งแวดล้อม.
313
991480
3816
และสุดท้ายแล้วการบำบัดส่วนบุคคล
สำหรับสิ่งแวดล้อม
16:47
So I think at everyทุกๆ stageเวที, you know --
314
995320
3096
ฉะนั้น ผมคิดว่าทุก ๆ ขั้นตอนครับ
16:50
there's that metaphorคำอุปมา,
there's turtlesเต่า all the way.
315
998440
2416
มันมีการเปรียบเปรย
มันเป็นเต่าที่เรียงต่อกันไปเรื่อย ๆ
16:52
Well, in this, there's
personalizationส่วนบุคคล all the way.
316
1000880
2381
ครับ ในเรื่องนี้ มันเป็นการแพทย์ส่วนบุคคล
ที่เรียงต่อกันไปเรื่อย ๆ
16:55
CACA: So when you say
medicineยา could be a cellเซลล์
317
1003285
2891
คริส: ฉะนั้น เมื่อคุณบอกว่า
การแพทย์อาจเป็นเซลลื
16:58
and not a pillยา,
318
1006200
1816
และไม่ได้เป็นยา
17:00
you're talkingการพูด about
potentiallyที่อาจเกิดขึ้น your ownด้วยตัวเอง cellsเซลล์.
319
1008040
2256
คุณพูดถึงเซลล์ของตัวคุณเองใช่ไหมครับ
17:02
SMเอสเอ็ม: Absolutelyอย่างแน่นอน.
CACA: So convertedแปลง to stemก้านดอก cellsเซลล์,
320
1010320
2376
สิทธัตถะ: แน่นอนครับ
คริส: ฉะนั้น เปลี่ยนไปหาสเต็มเซลล์
17:04
perhapsบางที testedการทดสอบ againstต่อต้าน all kindsชนิด
of drugsยาเสพติด or something, and preparedเตรียมพร้อม.
321
1012720
4536
บางที่อาจทดสอบมันกับยาทุก ๆ แบบ
หรืออะไรแบบนั้น
17:09
SMเอสเอ็ม: And there's no perhapsบางที.
This is what we're doing.
322
1017280
2536
สิทธัตถะ: และไม่ใช่บางทีหรอกครับ
นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ครับ
17:11
This is what's happeningสิ่งที่เกิดขึ้น,
and in factความจริง, we're slowlyช้า movingการเคลื่อนย้าย,
323
1019840
3736
นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
อันที่จริง เรากำลังคืบหน้าไปอย่างช้า ๆ
17:15
not away from genomicsฟังก์ชั่น,
but incorporatingผสมผสาน genomicsฟังก์ชั่น
324
1023600
3815
ไม่ได้ไปจากจีโนม
แต่รวมเอาจีโนมไว้ด้วย
17:19
into what we call multi-orderหลายคำสั่ง,
semi-autonomousกึ่งอิสระ, self-regulatingบังคับตนเอง systemsระบบ,
325
1027440
4735
กับสิ่งที่เราเรียกว่า ระบบที่กำกับตัวเอง
กึ่งอัตโนมัติ ในหลาย ๆ ระดับ
17:24
like cellsเซลล์, like organsอวัยวะ,
like environmentsสภาพแวดล้อม.
326
1032200
2616
อย่างเซลล์ อย่างอวัยวะ
อย่างสิ่งแวดล้อม
17:26
CACA: Thank you so much.
327
1034829
1378
คริส: ขอบคุณมากครับ
17:28
SMเอสเอ็ม: Pleasureความสุข. Thanksขอบคุณ.
328
1036227
1290
สิทธัตถะ: ยินดีครับ ขอบคุณครับ

▲Back to top

ABOUT THE SPEAKER
Siddhartha Mukherjee - Cancer physician and writer
When he’s not ferreting out the links between stem cells and malignant blood disease, Siddhartha Mukherjee writes and lectures on the history (and future) of medicine.

Why you should listen

While discussing a diagnosis with a patient, Siddhartha Mukherjee realized that there were no easy answers to the question, “What is cancer?” Faced with his hesitation, Mukherjee decided to do something about it.

Over the next six years, Mukherjee wrote the influential, Pulitzer-winning The Emperor of All Maladies, a 4,000-year “biography” of cancer. He collaborated with Ken Burns on a six-hour documentary for PBS based on his book, updating the story with recent discoveries in oncology.

In his new TED Book, The Laws of Medicine, he examines the three principles that govern modern medicine -- and every profession that confronts uncertainty and wonder.

More profile about the speaker
Siddhartha Mukherjee | Speaker | TED.com