TED2017
Adam Alter: Why our screens make us less happy
อดัม อัลเทอร์ (Adam Alter): ทำไมจอสี่เหลี่ยมถึงทำให้เรามีความสุขน้อยลง
Filmed:
Readability: 3.1
3,737,315 views
หน้าจอและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำอะไรกับเรา อดัม อัลเทอร์ เป็นนักจิตวิทยาผู้ศึกษาว่าหน้าจอต่าง ๆ ขโมยเวลาเราไปมากเท่าไร และเราเสียเวลาทำอะไรไปบ้าง เขามาเล่าให้ฟังว่าทำไมเวลาหลายชั่วโมงที่หมดไปกับการจ้องหน้าจอสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ถึงทำให้คุณรู้สึกทุกข์ใจ และคุณจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง
Adam Alter - Psychologist
What makes us incessantly check our phones? Adam Alter dives into the fascinating psychology that drives our tech addictions. Full bio
What makes us incessantly check our phones? Adam Alter dives into the fascinating psychology that drives our tech addictions. Full bio
Double-click the English transcript below to play the video.
00:12
So, a few years ago I heard
an interesting rumor.
an interesting rumor.
0
928
2987
เมื่อหลายปีก่อนผมได้ฟัง
เรื่องตลกที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง
เรื่องตลกที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง
00:16
Apparently, the head
of a large pet food company
of a large pet food company
1
4389
2388
มีหัวหน้าบริษัทอาหารสัตว์แห่งหนึ่ง
00:18
would go into the annual
shareholder's meeting
shareholder's meeting
2
6801
2255
เขาเข้าที่ประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้น
00:21
with can of dog food.
3
9080
1461
พร้อมกับกระป๋องอาหารสุนัข
00:22
And he would eat the can of dog food.
4
10565
2101
แล้วเขาก็กินอาหารสุนัขนั้นจนหมดกระป๋อง
00:24
And this was his way of convincing them
that if it was good enough for him,
that if it was good enough for him,
5
12690
3553
นี่เป็นการโน้มน้าวใจให้เห็นว่า
ถ้าสินค้านี้ดีพอสำหรับเขาเอง
ถ้าสินค้านี้ดีพอสำหรับเขาเอง
00:28
it was good enough for their pets.
6
16267
1677
มันก็ดีพอสำหรับสัตว์เลี้ยง
ของพวกเขา
ของพวกเขา
00:29
This strategy is now known
as "dogfooding,"
as "dogfooding,"
7
17968
2436
กลยุทธ์นี้รู้จักกันในชื่อ
"กินอาหารสุนัขตัวเอง"
"กินอาหารสุนัขตัวเอง"
00:32
and it's a common strategy
in the business world.
in the business world.
8
20428
2319
และมันก็เป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่เจอได้ทั่วไป
00:34
It doesn't mean everyone
goes in and eats dog food,
goes in and eats dog food,
9
22771
2484
ไม่ได้หมายความว่าทุกคน
ต้องไปกินอาหารสุนัขนะครับ
ต้องไปกินอาหารสุนัขนะครับ
00:37
but businesspeople
will use their own products
will use their own products
10
25279
2221
แต่นักธุรกิจจะใช้ผลิตภัณฑ์ตัวเอง
00:39
to demonstrate that they feel --
11
27524
1537
เพื่อแสดงให้เห็นว่า พวกเขารู้สึก
00:41
that they're confident in them.
12
29085
1705
มั่นใจในสินค้าของตัวเอง
00:42
Now, this is a widespread practice,
13
30814
1925
ตอนนี้มันก็เป็นหลักปฏิบัติอย่างกว้างขวาง
00:44
but I think what's really interesting
is when you find exceptions
is when you find exceptions
14
32763
3095
แต่ผมคิดว่าที่น่าสนจริง ๆ คือ
เมื่อคุณเจอข้อยกเว้น
เมื่อคุณเจอข้อยกเว้น
00:47
to this rule,
15
35882
1151
ต่อกฎนี้
00:49
when you find cases of businesses
or people in businesses
or people in businesses
16
37057
2707
เมื่อคุณเจอกรณีที่ธุรกิจหรือคนในวงธุรกิจ
00:51
who don't use their own products.
17
39788
1594
ที่ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
00:53
Turns out there's one industry
where this happens in a common way,
where this happens in a common way,
18
41406
3121
ปรากฏว่ามีอุตสาหกรรมหนึ่ง
ที่เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ที่เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา
00:56
in a pretty regular way,
19
44551
1160
ปกติธรรมดามากจริง ๆ
00:57
and that is the screen-based
tech industry.
tech industry.
20
45735
2434
และนั่นก็คืออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ที่ทำงานด้วยหน้าจอ
ที่ทำงานด้วยหน้าจอ
01:00
So, in 2010, Steve Jobs,
when he was releasing the iPad,
when he was releasing the iPad,
21
48193
4394
ในปี 2010 สตีฟ จ็อบส์
เปิดตัว iPad
เปิดตัว iPad
01:04
described the iPad as a device
that was "extraordinary."
that was "extraordinary."
22
52611
3742
เขาอธิบายว่ามันเป็นอุปกรณ์
ที่ "พิเศษเหนือธรรมดา"
ที่ "พิเศษเหนือธรรมดา"
01:08
"The best browsing experience
you've ever had;
you've ever had;
23
56377
2540
"ประสบการณ์ดีที่สุดใน
การท่องอินเตอร์เน็ตที่คุณเคยมี
การท่องอินเตอร์เน็ตที่คุณเคยมี
01:10
way better than a laptop,
way better than a smartphone.
way better than a smartphone.
24
58941
2733
ทางเลือกที่ดีกว่าแล็ปท็อป
ทางเลือกที่ดีกว่าสมาร์ทโฟน
ทางเลือกที่ดีกว่าสมาร์ทโฟน
01:13
It's an incredible experience."
25
61698
1527
มันเป็นประสบการณ์อันเหลือเชื่อ"
01:15
A couple of months later,
he was approached by a journalist
he was approached by a journalist
26
63249
2785
ไม่กี่เดือนต่อมา
เขาก็ถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าว
เขาก็ถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าว
01:18
from the New York Times,
27
66058
1156
จากนิวยอร์กไทมส์
01:19
and they had a long phone call.
28
67238
1499
พวกเขาคุยโทรศัพท์กันอย่างยืดยาว
01:20
At the end of the call,
29
68761
1170
ในช่วงท้ายของการสนทนา
01:21
the journalist threw in a question
that seemed like a sort of softball.
that seemed like a sort of softball.
30
69955
3390
นักข่าวตั้งคำถามที่ดูเบา แต่หนักหน่วง
01:25
He said to him, "Your kids
must love the iPad."
must love the iPad."
31
73369
2575
เขาถามว่า
"ลูก ๆ ของคุณจะต้องรัก iPad แน่ ๆ เลย"
"ลูก ๆ ของคุณจะต้องรัก iPad แน่ ๆ เลย"
01:28
There's an obvious answer to this,
32
76803
1629
คำตอบมันน่าจะชัดอยู่แล้ว
01:30
but what Jobs said
really staggered the journalist.
really staggered the journalist.
33
78456
2619
แต่สิ่งที่จ็อบส์ตอบมาทำให้
นักข่าวคนนั้นซวนเซไปเลย
นักข่าวคนนั้นซวนเซไปเลย
01:33
He was very surprised,
34
81099
1191
เขาประหลาดใจมาก ๆ
01:34
because he said, "They haven't used it.
35
82314
2575
เพราะจ็อบส์ตอบว่า "พวกเขาไม่ได้ใช้มันเลย
01:36
We limit how much technology
our kids use at home."
our kids use at home."
36
84913
2922
เราจำกัดว่าเด็ก ๆ จะใช้เทคโนโลยี
ได้มากแค่ไหนเมื่ออยู่บ้าน"
ได้มากแค่ไหนเมื่ออยู่บ้าน"
01:39
This is a very common thing
in the tech world.
in the tech world.
37
87859
3863
นี่เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก
ในโลกเทคโนโลยี
ในโลกเทคโนโลยี
01:43
In fact, there's a school
quite near Silicon Valley
quite near Silicon Valley
38
91746
2435
ในความเป็นจริงคือมีโรงเรียน
ใกล้ ๆ ซิลิคอนวัลเลย์
ใกล้ ๆ ซิลิคอนวัลเลย์
01:46
called the Waldorf School
of the Peninsula,
of the Peninsula,
39
94205
2273
ชื่อว่า โรงเรียนวอลดอร์ฟ
แห่งเพนินซูลา
แห่งเพนินซูลา
01:48
and they don't introduce screens
until the eighth grade.
until the eighth grade.
40
96502
3164
พวกเขาไม่ให้เด็ก ๆ ใช้
อุปกรณ์ที่มีหน้าจอจนกว่าจะเกรดแปด
อุปกรณ์ที่มีหน้าจอจนกว่าจะเกรดแปด
01:51
What's really interesting about the school
41
99690
2042
เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับโรงเรียนนั้นก็คือ
01:53
is that 75 percent
of the kids who go there
of the kids who go there
42
101756
2049
กว่า 75% ของเด็กที่เรียนที่นั่น
01:55
have parents who are high-level
Silicon Valley tech execs.
Silicon Valley tech execs.
43
103829
3067
มีพ่อแม่เป็นผู้บริหารระดับสูง
ของซิลิคอน วัลเลย์
ของซิลิคอน วัลเลย์
01:59
So when I heard about this, I thought
it was interesting and surprising,
it was interesting and surprising,
44
107342
3515
เมื่อผมได้ฟังเรื่องนี้
ผมก็คิดว่ามันทั้งน่าสนและน่าประหลาดใจ
ผมก็คิดว่ามันทั้งน่าสนและน่าประหลาดใจ
02:02
and it pushed me to consider
what screens were doing to me
what screens were doing to me
45
110881
3032
และก็ทำให้ผมคิดทบทวนว่า
หน้าจอสี่เหลี่ยมนี่กำลังทำอะไรกับผม
หน้าจอสี่เหลี่ยมนี่กำลังทำอะไรกับผม
02:05
and to my family and the people I loved,
46
113937
1957
กับครอบครัวและคนที่ผมรัก
02:07
and to people at large.
47
115918
1262
และต่อคนอื่นทั่วไป
02:09
So for the last five years,
48
117204
1922
ดังนั้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
02:11
as a professor of business and psychology,
49
119150
2033
ในฐานะอาจารย์ด้านธุรกิจและจิตวิทยา
02:13
I've been studying the effect
of screens on our lives.
of screens on our lives.
50
121207
2704
ผมจึงศึกษาถึงผลกระทบของ
หน้าจอที่มีต่อชีวิตเรา
หน้าจอที่มีต่อชีวิตเรา
02:16
And I want to start by just focusing
on how much time they take from us,
on how much time they take from us,
51
124889
4082
ผมจะเริ่มที่ว่ามันพรากเวลาจากเราไปเท่าไร
02:20
and then we can talk about
what that time looks like.
what that time looks like.
52
128995
2506
และเราค่อยมาคุยกันว่า
ช่วงเวลานั้นมันเป็นอะไรยังไง
ช่วงเวลานั้นมันเป็นอะไรยังไง
02:23
What I'm showing you here
is the average 24-hour workday
is the average 24-hour workday
53
131525
2667
ที่ผมให้ทุกคนดูอยู่คือ
24 ชั่วโมงของวันธรรมดาโดยเฉลี่ย
24 ชั่วโมงของวันธรรมดาโดยเฉลี่ย
02:26
at three different points in history:
54
134216
2338
ในสามช่วงเวลาของประวัติศาสตร์
02:28
2007 -- 10 years ago --
55
136578
2002
ปี 2007 เมื่อสิบปีที่แล้ว
02:30
2015
56
138604
1459
ปี 2015
02:32
and then data that I collected,
actually, only last week.
actually, only last week.
57
140087
3018
และข้อมูลที่จริง ๆ แล้วผมเพิ่งเก็บ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง
02:35
And a lot of things haven't changed
58
143129
1749
หลาย ๆ อย่างไม่ได้เปลี่ยนไป
02:36
all that much.
59
144902
1151
มากเท่าไรนัก
02:39
We sleep roughly seven-and-a-half
to eight hours a day;
to eight hours a day;
60
147320
2775
เราหลับประมาณเจ็ดชั่วโมงครึ่งถึง
แปดชั่วโมงต่อวัน
แปดชั่วโมงต่อวัน
02:42
some people say that's declined slightly,
but it hasn't changed much.
but it hasn't changed much.
61
150119
3317
บางคนบอกว่ามันลดลงนิดหน่อย
แต่ก็นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก
แต่ก็นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก
02:45
We work eight-and-a-half
to nine hours a day.
to nine hours a day.
62
153460
3254
เราทำงานแปดชั่วโมงครึ่งถึง
เก้าชั่วโมงต่อวัน
เก้าชั่วโมงต่อวัน
02:48
We engage in survival activities --
63
156738
1732
เราทำกิจการเพื่อการดำรงชีพ
02:50
these are things like eating
and bathing and looking after kids --
and bathing and looking after kids --
64
158494
3127
อย่างเช่น กินข้าว อาบน้ำ เลี้ยงลูก
02:53
about three hours a day.
65
161645
1156
ประมาณสามชั่วโมงต่อวัน
02:54
That leaves this white space.
66
162825
1528
มีพื้นที่สีขาวเหลืออยู่ตรงนี้
02:56
That's our personal time.
67
164377
1667
นั่นคือเวลาส่วนตัว
02:58
That space is incredibly important to us.
68
166068
2788
พื้นที่ตรงนั้นสำคัญกับเราอย่างยิ่ง
03:01
That's the space where we do things
that make us individuals.
that make us individuals.
69
169294
2874
พื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ที่ทำให้เรา
เป็นตัวของตัวเอง
เป็นตัวของตัวเอง
03:04
That's where hobbies happen,
where we have close relationships,
where we have close relationships,
70
172192
3101
เป็นเวลาของงานอดิเรก การสานสัมพันธ์
03:07
where we really think about our lives,
where we get creative,
where we get creative,
71
175317
2882
ไว้ใช้ขบคิดเกี่ยวชีวิต
หรือไว้ใช้คิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ
หรือไว้ใช้คิดสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ
03:10
where we zoom back and try to work out
72
178223
1814
ที่ใช้ย้อนกลับมามองตัวเอง
03:12
whether our lives have been meaningful.
73
180061
1860
ว่าชีวิตนี้มีความหมายแล้วหรือยัง
03:13
We get some of that from work as well,
74
181945
1828
เราได้บางสิ่งนี้จากการทำงานได้เช่นกัน
03:15
but when people look back on their lives
75
183797
1915
แต่เมื่อคนเรามองย้อนกลับไปดูชีวิต
03:17
and wonder what their lives have been like
76
185736
2004
และสงสัยขึ้นมาว่าชีวิตของเรานั้น
03:19
at the end of their lives,
77
187764
1243
จะเป็นยังไงในตอนสุดท้าย
03:21
you look at the last things they say --
78
189031
1887
ลองดูสิ่งสุดท้ายที่พวกเขากล่าว
03:22
they are talking about those moments
that happen in that white personal space.
that happen in that white personal space.
79
190942
3701
พวกเขากำลังคุยถึงช่วงเวลาตรงนั้น
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนตัวสีขาวนั่น
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ส่วนตัวสีขาวนั่น
03:26
So it's sacred; it's important to us.
80
194667
2003
มันจึงศักดิ์สิทธิ์ มีความสำคัญต่อเรา
03:28
Now, what I'm going to do is show you
81
196694
1851
คราวนี้สิ่งที่ผมจะให้ทุกคนดู คือ
03:30
how much of that space
is taken up by screens across time.
is taken up by screens across time.
82
198569
3252
เราหมดเวลาตรงนั้นไปกับ
หน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ไปเท่าไร
หน้าจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ไปเท่าไร
03:33
In 2007,
83
201845
1325
ปี 2007
03:35
this much.
84
203194
1151
หมดไปเท่านี้ครับ
03:36
That was the year that Apple
introduced the first iPhone.
introduced the first iPhone.
85
204369
2980
นั่นคือปีที่ Apple
เปิดตัว iPhone เครื่องแรก
เปิดตัว iPhone เครื่องแรก
03:39
Eight years later,
86
207373
1198
แปดปีต่อมา
03:41
this much.
87
209239
1221
เป็นเท่านี้ครับ
03:43
Now, this much.
88
211318
1789
และมากเท่านี้ในปัจจุบัน
03:45
That's how much time we spend
of that free time in front of our screens.
of that free time in front of our screens.
89
213131
3438
ที่เห็นกันคือระยะเวลาที่
เวลาว่างของเราหมดไปกับหน้าจอ
เวลาว่างของเราหมดไปกับหน้าจอ
03:48
This yellow area, this thin sliver,
is where the magic happens.
is where the magic happens.
90
216593
3303
พื้นที่สีเหลืองนี้ ตรงเส้นบางๆ นี้
คือจุดที่สิ่งพิเศษเกิดขึ้นครับ
คือจุดที่สิ่งพิเศษเกิดขึ้นครับ
03:51
That's where your humanity lives.
91
219920
1582
นั่นคือที่ของความเป็นมนุษย์ของคุณ
03:53
And right now, it's in a very small box.
92
221526
2032
และตอนนี้มันเหลือน้อยแค่นี้เอง
03:56
So what do we do about this?
93
224243
1625
แล้วเราจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง
03:57
Well, the first question is:
94
225892
1357
คำถามแรกเลยก็คือ
03:59
What does that red space look like?
95
227273
1859
พื้นที่สีแดงนั้นเป็นยังไง
04:01
Now, of course, screens are miraculous
96
229156
2105
แน่นนอนว่าตอนนี้หน้าจอเป็นสิ่งมหัศจรรย์
04:03
in a lot of ways.
97
231285
1428
สำหรับหลาย ๆ อย่าง
04:04
I live in New York,
98
232737
1257
ผมอยู่ที่นิวยอร์ก
04:06
a lot of my family lives in Australia,
99
234018
1998
แต่ครอบครัวผมอยู่ที่ออสเตรเลีย
04:08
and I have a one-year-old son.
100
236040
1430
และผมมีลูกชายวัยหนึ่งขวบคนนึง
04:09
The way I've been able to introduce
them to him is with screens.
them to him is with screens.
101
237494
3898
ผมคุยกับเขาได้ผ่านจอ
04:13
I couldn't have done that
15 or 20 years ago
15 or 20 years ago
102
241416
2090
ผมทำแบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ
15 หรือ 20 ปีก่อน
15 หรือ 20 ปีก่อน
04:15
in quite the same way.
103
243530
1158
ด้วยวิธีการแบบนี้
04:16
So there's a lot of good
that comes from them.
that comes from them.
104
244712
2157
นั่นคือเรื่องดีมาก ๆ ที่มากับมัน
04:18
One thing you can do is ask yourself:
105
246893
1846
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณทำได้คือถามตัวเองว่า
04:20
What goes on during that time?
106
248763
2083
เกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลานั้น
04:22
How enriching are the apps
that we're using?
that we're using?
107
250870
2438
แล้วแอพฯ ที่เราใช้ล่ะให้ประโยชน์
มากน้อยแค่ไหน
มากน้อยแค่ไหน
04:25
And some are enriching.
108
253332
1274
บางอย่างใช้แล้วดีจริง ๆ
04:26
If you stop people while
they're using them and say,
they're using them and say,
109
254630
2442
ถ้าคุณลองไปขัดจังหวะคนกำลังเล่นแอพฯ
แล้วถามว่า
แล้วถามว่า
04:29
"Tell us how you feel right now,"
110
257096
1588
บอกเราหน่อยสิ
ตอนนี้รู้สึกยังไง
ตอนนี้รู้สึกยังไง
04:30
they say they feel pretty good
about these apps --
about these apps --
111
258708
2396
เขาก็จะตอบว่าก็รู้สึกดีกับแอพฯ พวกนี้
04:33
those that focus on relaxation,
exercise, weather, reading,
exercise, weather, reading,
112
261128
3360
นี่คือกลุ่มที่เน้นการผ่อนคลาย การออกกำลัง
อากาศ การอ่านหนังสือ
อากาศ การอ่านหนังสือ
04:36
education and health.
113
264512
1543
การศึกษา และสุขภาพ
04:38
They spend an average of nine
minutes a day on each of these.
minutes a day on each of these.
114
266079
3134
พวกเขาใช้แอพฯ กลุ่มนี้เฉลี่ย 9 นาที ต่อวัน
04:41
These apps make them much less happy.
115
269237
2330
แอพฯ พวกนี้ทำให้เรามีความสุขน้อยลง
04:44
About half the people, when you interrupt
them and say, "How do you feel?"
them and say, "How do you feel?"
116
272099
3604
เกือบครึ่งของทุกคน เมื่อคุณไปขัดจังหวะ
และถามว่า คุณรู้สึกไงบ้าง
และถามว่า คุณรู้สึกไงบ้าง
04:47
say they don't feel good about using them.
117
275727
2108
เขาจะบอกว่าแอพฯ นี้
เล่นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี
เล่นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี
04:49
What's interesting about these --
118
277859
1631
ที่น่าสนใจของแอพฯ กลุ่มนี้ก็คือ
04:51
dating, social networking, gaming,
119
279514
1710
แอพฯ นัดเดท โซเชียลเน็ตเวิร์ค เกม
04:53
entertainment, news, web browsing --
120
281248
2726
ความบันเทิง ข่าว ส่องเว็บ
04:55
people spend 27 minutes a day
on each of these.
on each of these.
121
283998
2606
ผู้คนใช้เวลากับแอพพวกนี้ถึง 27 นาทีต่อวัน
04:58
We're spending three times longer
on the apps that don't make us happy.
on the apps that don't make us happy.
122
286628
3552
เราใช้เวลามากกว่าถึง 3 เท่า
กับแอพที่ทำให้เราไม่มีความสุข
กับแอพที่ทำให้เราไม่มีความสุข
05:02
That doesn't seem very wise.
123
290204
1668
นั่นดูไม่ฉลาดเท่าไรเลย
05:04
One of the reasons we spend
so much time on these apps
so much time on these apps
124
292886
2538
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราหมดเวลาไปเยอะ
กับแอพฯ พวกนั้น
กับแอพฯ พวกนั้น
05:07
that make us unhappy
125
295448
1152
ที่ทำให้เราไม่มีความสุข
05:08
is they rob us of stopping cues.
126
296624
1532
ก็คือมันขโมยจุดเตือนให้หยุดไป
05:10
Stopping cues were everywhere
in the 20th century.
in the 20th century.
127
298180
2379
จุดเตือนให้หยุดมีอยู่ทุกหนแห่ง
ในศตวรรษที่ 20
ในศตวรรษที่ 20
05:12
They were baked into everything we did.
128
300583
1864
มันซ่อนอยู่ในทุกเรื่องที่เราทำ
05:14
A stopping cue is basically a signal
that it's time to move on,
that it's time to move on,
129
302471
3416
จุดเตือนให้หยุดเป็นสัญญาณเตือนกับเรา
ว่าได้เวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว
ว่าได้เวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว
05:17
to do something new,
to do something different.
to do something different.
130
305911
2697
ไปทำอะไรใหม่ ๆ ทำอะไรที่ต่างจากที่ทำอยู่
05:20
And -- think about newspapers;
eventually you get to the end,
eventually you get to the end,
131
308632
3196
ลองนึกถึงหนังสือพิมพ์
ที่สุดท้ายแล้วเราก็จะอ่านถึงหน้าสุดท้าย
ที่สุดท้ายแล้วเราก็จะอ่านถึงหน้าสุดท้าย
05:23
you fold the newspaper away,
you put it aside.
you put it aside.
132
311852
2297
และเราก็จะพับ และโยนมันไปไว้ข้าง ๆ
05:26
The same with magazines, books --
you get to the end of a chapter,
you get to the end of a chapter,
133
314173
3158
เหมือนกันกับนิตยสาร หนังสือ
ที่คุณก็จะอ่านไปถึงตอนจบของบท
ที่คุณก็จะอ่านไปถึงตอนจบของบท
05:29
prompts you to consider
whether you want to continue.
whether you want to continue.
134
317355
2777
ทำให้คุณได้หยุดคิดว่าจะทำอะไรต่อไป
05:32
You watched a show on TV,
eventually the show would end,
eventually the show would end,
135
320504
2698
หรือถ้าดูรายการทีวี
เดี๋ยวรายการมันก็จบ
เดี๋ยวรายการมันก็จบ
05:35
and then you'd have a week
until the next one came.
until the next one came.
136
323226
2405
และคุณต้องรอไปอีกหนึ่งสัปดาห์
จนกว่าตอนใหม่จะมา
จนกว่าตอนใหม่จะมา
05:37
There were stopping cues everywhere.
137
325655
1754
มีจุดเตือนให้หยุดทุกที่เลย
05:39
But the way we consume media today
is such that there are no stopping cues.
is such that there are no stopping cues.
138
327433
3750
แต่วิธีการเสพสื่อทุกวันนี้เป็นแบบที่
ไม่มีจุดเตือนให้หยุด
ไม่มีจุดเตือนให้หยุด
05:43
The news feed just rolls on,
139
331923
1575
ฝีดข่าวมันเลื่อนไปได้เรื่อย ๆ
05:45
and everything's bottomless:
Twitter, Facebook, Instagram,
Twitter, Facebook, Instagram,
140
333522
3673
และทุกสิ่งไม่มีตอนจบ ทั้ง twitter
Facebook instagram
Facebook instagram
05:49
email, text messaging, the news.
141
337219
3142
อีเมล์ ข้อความสั้น หรือข่าว
05:52
And when you do check
all sorts of other sources,
all sorts of other sources,
142
340385
2970
พอคุณเช็คจากทุกแหล่งข่าวแล้ว
05:55
you can just keep going on and on and on.
143
343379
2341
คุณก็ยังไปต่อได้อีกเรื่อย ๆ
05:57
So, we can get a cue about what to do
from Western Europe,
from Western Europe,
144
345744
4410
เราอาจจะไปขอยืมจุดหยุดแบบที่
ทำกันในยุโรปตะวันตก
ทำกันในยุโรปตะวันตก
06:02
where they seem to have a number
of pretty good ideas in the workplace.
of pretty good ideas in the workplace.
145
350178
3401
ที่นั่นดูเหมือนจะมีไอเดียดี ๆ พวกนี้เยอะ
ในที่ทำงาน
ในที่ทำงาน
06:05
Here's one example.
This is a Dutch design firm.
This is a Dutch design firm.
146
353603
2408
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่ง
บริษัทออกแบบจากเนเธอแลนด์
บริษัทออกแบบจากเนเธอแลนด์
06:08
And what they've done
is rigged the desks to the ceiling.
is rigged the desks to the ceiling.
147
356035
3386
ที่พวกเขาทำคือโยงโต๊ะทำงานเข้ากับเพดาน
06:11
And at 6pm every day,
148
359445
1152
และทุกวันตอน 6 โมงเย็น
06:12
it doesn't matter who you're emailing
or what you're doing,
or what you're doing,
149
360621
2807
ไม่ว่าคุณกำลังตอบอีเมล์หรือทำอะไรก็ตาม
06:15
the desks rise to the ceiling.
150
363452
1477
โต๊ะทำงานจะถูกยกขึ้นไปติดเพดาน
06:16
(Laughter)
151
364953
1108
(เสียงหัวเราะ)
06:18
(Applause)
152
366085
1250
(เสียงปรบมือ)
06:19
Four days a week, the space
turns into a yoga studio,
turns into a yoga studio,
153
367359
4243
4 วันในสัปดาห์ พื้นที่ตรงนี้จะเปลี่ยนเป็น
สตูดิโอโยคะ
สตูดิโอโยคะ
06:23
one day a week, into a dance club.
154
371626
1631
1 วันจะเปลี่ยนเป็นคลับเต้นรำ
06:25
It's really up to you which ones
you stick around for.
you stick around for.
155
373281
2529
ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นคุณกำลังชอบอะไรกัน
06:27
But this is a great stopping rule,
156
375834
1687
นี่เป็นกฎการหยุดที่เยี่ยมไปเลย
06:29
because it means at the end of the day,
157
377545
1887
เพราะหมายความว่า เมื่อหมดวัน
06:31
everything stops, there's no way to work.
158
379456
2037
ทุกอย่างต้องหยุด ห้ามทำงานอีกต่อไป
06:33
At Daimler, the German car company,
they've got another great strategy.
they've got another great strategy.
159
381517
3444
บริษัท Diamler ผู้ผลิตรถยนต์ที่เยอรมนี
พวกเขามีกลยุทธ์ที่เยี่ยมพอ ๆ กัน
พวกเขามีกลยุทธ์ที่เยี่ยมพอ ๆ กัน
06:36
When you go on vacation,
160
384985
1530
เมื่อคุณพักผ่อนวันหยุด
06:38
instead of saying,
"This person's on vacation,
"This person's on vacation,
161
386539
2204
แทนที่จะบอกว่า
"คนนี้อยู่ระหว่างลาพักผ่อน
"คนนี้อยู่ระหว่างลาพักผ่อน
06:40
they'll get back to you eventually,"
162
388767
1723
พวกเขาจะกลับมาพบคุณในภายหลัง"
06:42
they say, "This person's on vacation,
so we've deleted your email.
so we've deleted your email.
163
390514
3222
พวกเขากลับพูดว่า "บุคคลนี้กำลังลาพัก
ดังนั้นเราจะลบอีเมล์ของคุณทิ้ง"
ดังนั้นเราจะลบอีเมล์ของคุณทิ้ง"
06:45
This person will never see
the email you just sent."
the email you just sent."
164
393760
2646
"เขาจะไม่เห็นอีเมล์ที่คุณส่งมา"
06:48
(Laughter)
165
396430
1016
(เสียงหัวเราะ)
06:49
"You can email back in a couple of weeks,
166
397470
2641
"คุณจะตอบอีเมล์กลับในอีกสองสามสัปดาห์
06:52
or you can email someone else."
167
400135
1486
หรือจะเมล์ไปหาคนอื่นแทนก็ได้"
06:53
(Laughter)
168
401645
1028
(เสียงหัวเราะ)
06:54
And so --
169
402697
1172
ดังนั้นแล้ว
06:55
(Applause)
170
403893
3642
(เสียงปรบมือ)
07:00
You can imagine what that's like.
171
408882
1638
คุณนึกออกเลยล่ะสิว่ามันเป็นยังไง
07:02
You go on vacation,
and you're actually on vacation.
and you're actually on vacation.
172
410544
2458
ได้หยุดพักผ่อนที่เป็นการหยุดจริงๆ
07:05
The people who work at this company feel
173
413026
1969
คนทำงานที่บริษัทนี้รู้สึกว่า
07:07
that they actually get a break from work.
174
415019
2362
พวกเขาได้พักจากงานอย่างแท้จริง
07:09
But of course, that doesn't tell us much
175
417405
1917
แน่นอนว่า นี่ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
07:11
about what we should do
at home in our own lives,
at home in our own lives,
176
419346
2299
เรื่องที่ว่าเราจะทำตัวอย่างไรเมื่ออยู่บ้าน
07:13
so I want to make some suggestions.
177
421669
1682
ดังนั้นผมจะให้คำแนะนำคร่าว ๆ
07:15
It's easy to say, between 5 and 6pm,
I'm going to not use my phone.
I'm going to not use my phone.
178
423375
4493
การพูดว่าช่วง 5 ถึง 6 โมงเย็น
ผมจะไม่ใช้โทรศัพท์ เป็นเรื่องง่าย
ผมจะไม่ใช้โทรศัพท์ เป็นเรื่องง่าย
07:19
The problem is, 5 and 6pm
looks different on different days.
looks different on different days.
179
427892
3431
ปัญหาคือ 5-6โมงเย็น แต่ละวันไม่เหมือนกัน
07:23
I think a far better strategy is to say,
180
431347
2187
ผมว่าทางที่ดีกว่าควรจะเป็นว่า
07:25
I do certain things every day,
181
433558
1469
ทุก ๆ วันผมทำหลายอย่างเลยครับ
07:27
there are certain occasions
that happen every day,
that happen every day,
182
435051
2354
มีหลายเรื่องที่เกิดขึ้น
07:29
like eating dinner.
183
437429
1259
เช่น ทานอาหารเย็น
07:30
Sometimes I'll be alone,
184
438712
1318
บางครั้งก็อยู่คนเดียว
07:32
sometimes with other people,
185
440054
1506
บางครั้งก็กับคนอื่น
07:33
sometimes in a restaurant,
186
441584
1279
บางทีก็ที่ร้านอาหาร
07:34
sometimes at home,
187
442887
1188
บ้างก็ที่บ้าน
07:36
but the rule that I've adopted is:
I will never use my phone at the table.
I will never use my phone at the table.
188
444099
3646
แต่กฎที่ผมตั้งขึ้นมาคือ
ผมจะไม่ใช้มือถือบนโต๊ะอาหาร
ผมจะไม่ใช้มือถือบนโต๊ะอาหาร
07:40
It's far away,
189
448123
1434
เอาไปไว้ให้ไกล
07:41
as far away as possible.
190
449581
1461
ไกลเท่าที่จะไกลได้
07:43
Because we're really bad
at resisting temptation.
at resisting temptation.
191
451066
2309
เพราะเราต้านทานความอยากได้ไม่ดีเท่าไร
07:45
But when you have a stopping cue
that, every time dinner begins,
that, every time dinner begins,
192
453399
3071
แต่เมื่อมีจุดเตือนให้หยุด
เช่นตอนเริ่มมื้อเย็น
เช่นตอนเริ่มมื้อเย็น
07:48
my phone goes far away,
193
456494
1156
มือถือผมจะไปอยู่ไกลตัว
07:49
you avoid temptation all together.
194
457674
1668
ทำให้ลดความปรารถนาไว้ได้
07:51
At first, it hurts.
195
459366
1717
แรก ๆ ก็ทำใจลำบากหน่อย
07:53
I had massive FOMO.
196
461107
1622
ผมนี่กังวลสุด ๆ ไปเลย
07:54
(Laughter)
197
462753
1066
(เสียงหัวเราะ)
07:55
I struggled.
198
463843
1166
ถึงขั้นต้องดิ้นรน
07:57
But what happens is, you get used to it.
199
465369
1930
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คุณจะชินไปเอง
07:59
You overcome the withdrawal
the same way you would from a drug,
the same way you would from a drug,
200
467323
3098
เราเอาชนะอาการลงแดงได้
แบบเดียวกับการหยุดใช้ยา
แบบเดียวกับการหยุดใช้ยา
08:02
and what happens is, life becomes
more colorful, richer,
more colorful, richer,
201
470445
2785
และสิ่งที่เกิดขึ้นอีกคือ
ชีวิตมีสีสัน รุ่มรวย
ชีวิตมีสีสัน รุ่มรวย
08:05
more interesting --
202
473254
1155
และน่าสนใจมากขึ้น
08:06
you have better conversations.
203
474433
1650
คุณมีบทสนทนาที่ดีกว่าเดิม
08:08
You really connect with the people
who are there with you.
who are there with you.
204
476107
3024
คุณเชื่อมต่อกับผู้คนที่อยู่รอบตัวคุณ
08:11
I think it's a fantastic strategy,
205
479155
1644
ผมว่ามันเป็นกลยุทธ์ที่น่าอัศจรรย์
08:12
and we know it works,
because when people do this --
because when people do this --
206
480823
2489
และเรารู้ว่ามันได้ผล เพราะคนที่ทำเช่นนี้
08:15
and I've tracked a lot of people
who have tried this --
who have tried this --
207
483336
2590
ผมตามเก็บข้อมูลคนที่ทดลองจำนวนมาก
08:17
it expands.
208
485950
1170
มันขยายไปสู่เวลาอื่น
08:19
They feel so good about it,
209
487144
1316
พวกเขารู้สึกดีต่อเรื่องนี้
08:20
they start doing it for the first
hour of the day in the morning.
hour of the day in the morning.
210
488484
3092
พวกเขาเริ่มมันตั้งแต่ชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน
08:23
They start putting their phones
on airplane mode on the weekend.
on airplane mode on the weekend.
211
491600
3125
พวกเขาเริ่มเปิดโหมดเครื่องบิน
ในช่วงสุดสัปดาห์
ในช่วงสุดสัปดาห์
08:26
That way, your phone remains a camera,
but it's no longer a phone.
but it's no longer a phone.
212
494749
3737
ทำแบบนี้ทำให้มือถือคุณยังใช้เป็นกล้องได้
แต่มันจะโทรเข้าโทรออกไม่ได้
แต่มันจะโทรเข้าโทรออกไม่ได้
08:30
It's a really powerful idea,
213
498510
1335
นี่เป็นความคิดที่มีพลังมาก
08:31
and we know people feel much better
about their lives when they do this.
about their lives when they do this.
214
499869
3629
และรู้ว่าผู้คนรู้สึกดีขึ้นกับชีวิต
เมื่อทำแบบนี้
เมื่อทำแบบนี้
08:35
So what's the take home here?
215
503973
1589
งั้นสิ่งที่จะได้ไปวันนี้คืออะไร
08:37
Screens are miraculous;
I've already said that,
I've already said that,
216
505586
2239
หน้าจอมันมหัศจรรย์ ผมบอกเรื่องนี้ไปแล้ว
08:39
and I feel that it's true.
217
507849
1352
ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องจริง
08:41
But the way we use them is a lot like
driving down a really fast, long road,
driving down a really fast, long road,
218
509225
4620
แต่วิธีที่เราใช้มันนั้นเหมือนกับ
ขับรถไปอย่างรวดเร็วบนถนนที่ยาวไกล
ขับรถไปอย่างรวดเร็วบนถนนที่ยาวไกล
08:45
and you're in a car where the accelerator
is mashed to the floor,
is mashed to the floor,
219
513869
3163
และคุณอยู่บนรถที่คันเร่งเหยียบมิดติดพื้น
08:49
it's kind of hard
to reach the brake pedal.
to reach the brake pedal.
220
517056
2048
มันก็เลยยากที่จะไปแตะเบรก
08:51
You've got a choice.
221
519128
1492
คุณมีทางเลือก
08:53
You can either glide by, past,
say, the beautiful ocean scenes
say, the beautiful ocean scenes
222
521510
4163
คุณทำได้ทั้งร่อนถลาผ่านวิวทะเลอันสวยงาม
08:57
and take snaps out the window --
that's the easy thing to do --
that's the easy thing to do --
223
525697
3096
แล้วถ่ายรูปผ่านหน้าต่าง มันง่ายจะตายไป
09:00
or you can go out of your way
to move the car to the side of the road,
to move the car to the side of the road,
224
528817
3540
หรือคุณจะไปบนทางของตัวเอง เพื่อจะ
09:04
to push that brake pedal,
225
532381
1472
แตะเบรก
09:05
to get out,
226
533877
1153
เพื่อออกไปข้างนอก
09:07
take off your shoes and socks,
227
535054
1881
ถอดรองเท้า ถุงเท้า
09:08
take a couple of steps onto the sand,
228
536959
2265
ลองเดินไปบนเม็ดทราย
09:11
feel what the sand feels like
under your feet,
under your feet,
229
539248
2240
สัมผัสความรู้สึกของทรายใต้ฝ่าเท้า
09:13
walk to the ocean,
230
541512
1151
เดินไปสู่น้ำทะเล
09:14
and let the ocean lap at your ankles.
231
542687
2113
ให้น้ำทะเลได้สาดซัดมาโดนคุณ
09:17
Your life will be richer
and more meaningful
and more meaningful
232
545207
2815
ชีวิตจะรุ่มรวยและมีคุณค่ายิ่งขึ้น
09:20
because you breathe in that experience,
233
548046
2218
เพราะคุณมีประสบการณ์นั้นด้วยตนเอง
09:22
and because you've left
your phone in the car.
your phone in the car.
234
550288
2396
และเพราะคุณทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถด้วย
09:24
Thank you.
235
552708
1171
ขอบคุณครับ
09:25
(Applause)
236
553903
2301
(เสียงปรบมือ)
ABOUT THE SPEAKER
Adam Alter - PsychologistWhat makes us incessantly check our phones? Adam Alter dives into the fascinating psychology that drives our tech addictions.
Why you should listen
Adam Alter's academic research focuses on judgment, decision-making and social psychology, with a particular interest in the sometimes surprising effects of subtle cues in the environment on human cognition and behavior.
He is the bestselling author of two books: Irresistible, which considers why so many people today are addicted to so many behaviors, from incessant smart phone and internet use to video game playing and online shopping, and Drunk Tank Pink, which investigates how hidden forces in the world around us shape our thoughts, feelings and behaviors.
Adam Alter | Speaker | TED.com